Framework สุดปังที่ช่วยสร้างสรรค์วิสัยทัศน์องค์กร ตอนที่ 2

คราวที่แล้ว A Cup of Culture ได้นำเสนอหลักเบื้องต้นที่ควรพิจารณาก่อนเริ่มต้นจรดปากกาเขียน Vision ไปแล้ว 3 ข้อ ในวันนี้เราก็จะมาลุยกันต่อกับอีก 4 ข้อที่เหลือว่ามีอะไรบ้าง
.

  • ☑ ข้อที่ 4 “เป็นแบบไหนในใจลูกค้า”

องค์กรต้องตอบให้ได้ว่า ต้องการให้ลูกค้าจดจำแบบไหน? ที่แตกต่างไปจากคู่แข่งหรือเหนือคู่แข่ง กล่าวคือ รู้ว่า Value proposition ขององค์กรคืออะไร ดังนั้น เมื่อเราชัดเจน และสามารถส่งมอบ Value proposition นี้ไปถึงลูกค้าได้ ในวันหนึ่งที่เราหายไป คนที่จะเดือดร้อนที่สุดก็คือ ลูกค้า เพราะเราสามารถเข้าไปแก้ pain point และครองใจลูกค้าได้แล้ว อย่างเช่น 7-11 ซึ่งก็ไม่ได้เป็นร้านสะดวกซื้อเพียงเจ้าเดียวในเมืองไทย แต่ถ้าวันใดที่ 7-11 หายไป เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่จะรู้สึกเดือดร้อน ถึงแม้ว่าจะมีร้านสะดวกซื้ออื่น ๆ แต่หากนับจำนวนแล้วก็ยังคงน้อยกว่าอยู่ดี เป็นต้น
.

  • ☑ ข้อที่ 5 “เป็นองค์กรแบบไหน ถามใจเธอดู”

คือ ต้องตอบให้ได้ก่อนว่า เป็นองค์กรแบบ Profits / แสวงหาผลกำไร หรือ Nonprofits / องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร จากนั้นตอบเพิ่มอีกว่าจะเป็นองค์กรประเภทไหน ซึ่งมีอยู่ 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ
.

1) Innovative Organization หรือองค์กรแห่งนวัตกรรม คือ องค์กรที่ผู้บริหารมุ่งเน้นและผลักดันให้เกิดการสร้างวัฒนธรรมภายในองค์กรด้วยการเล็งเห็นคุณค่าของนวัตกรรมเป็นสำคัญ และให้ความสำคัญกับการสร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมในที่ทำงานที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ เช่น บริษัท 3M เป็นต้น
.

2) High Performance Organization หรือองค์กรสมรรถนะสูง คือ องค์กรที่มุ่งเน้นในการสร้างคุณค่าขององค์กรที่ คุณภาพของกระบวนการผลิต (Production Quality) คุณภาพของสินค้า (Product Quality) ประสิทธิภาพของการผลิต (Production Efficiency) และคุณภาพการให้บริการ (Service Quality) ซึ่งนำไปสู่ความพึงพอใจของผู้บริโภคเป็นเป้าหมาย
.

3) Healthy Organization หรือองค์กรสุขภาพดี คือ องค์กรสุขภาพดี ที่มีการบริหารจัดการองค์กรด้วยแนวคิดใหม่ ที่มุ่งเน้นการบริหารจัดการ การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ การยึดมั่นในหลักจริยธรรม และการพัฒนาบุคลากร องค์กร และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งความสัมพันธ์ที่สมดุลนี้จะก่อให้เกิดการพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืน
.

ซึ่งเราจะต้องตัดสินใจให้ได้ว่าเราคือองค์กรแบบไหน เพราะมันสำคัญมากต่อการเริ่มต้นเขียน Vision และการดีไซน์อะไรต่าง ๆ ในองค์กร เช่น โครงสร้าง การวัดผล การพัฒนาบุคลากร ที่ต้องสอดคล้องกันไป
.

  • ☑ ข้อที่ 6 “รู้ได้ไง เมื่อไปถึง”

ความหมายคือ เมื่อไหร่ที่ Vision ขององค์กรสำเร็จ จะต้องรู้ได้… กล่าวคือ การมีตัวชี้วัด Vision เช่น “การเป็นผู้นำ…” ก็ต้องตอบให้ได้ว่า จะเป็นผู้นำในด้านไหน เช่น เป็นผู้นำในด้านการบริการ เป็นผู้นำในด้านผลประกอบการรายปี เป็นต้น หรือการใช้เกณฑ์วัดกลางมาเป็นตัวชี้วัด Vision และต้องสื่อสารกับบุคลากรในองค์กรว่า เราใช้เกณฑ์ไหนในการวัด เพื่อจะได้รู้เป้าหมายที่จะต้องไปให้ถึง และในบางครั้งเราจะพบว่าบางองค์กรจะตั้งตัวชี้วัดให้เวอร์เข้าไว้ก่อน เพื่อให้เกิดแรงผลักดันที่จะไปให้ถึง ตัวอย่างเช่น สมาคมอัลไซเมอร์และสถาบันผู้สูงอายุแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ที่มี Vision ที่ชัดเจนว่า “ไม่มีอัลไซเมอร์ในโลกใบนี้” ซี่งทำให้รู้สึกว่า นี่เป็น Vision ที่ยาวไกล เพราะหากในโลกใบนี้ยังมีคนป่วยด้วยอัลไซเมอร์อยู่ แสดงว่างานของสมาคมนี้ยังไม่เสร็จสิ้น
.

  • ☑ ข้อที่ 7 “เมื่อได้ฟัง ปลุกพลังให้ลุกสู้”

ในหลาย ๆ องค์กรที่เราพบ มีการเขียน Vision ที่ดีมาก แต่พออ่านแล้วกลับรู้สึกขาด energy หรือพนักงานรู้สึกว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับเขา
.

ซึ่งทั้งหมดนี้ก็คือ Framework ที่เราควรจะต้องเคลียร์ให้ได้ก่อนที่เราจะลงมือเขียน Vision “ท้ายสุดนี้…ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม วัฒนธรรมองค์กรจะเกิดขึ้นอยู่ดี ทำไมเราไม่มาสร้างวัฒนธรรมองค์กรในแบบที่เราอย่างเห็นกันละ”
.
.
…..
A Cup of Culture

Share to
Related Posts:
Search

ORG Culture Canvas full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

Search