การใช้คําเดียวเพื่อนิยามวัฒนธรรมองค์กรอาจเป็นเรื่องยากสำหรับบางองค์กร แต่อย่างไรก็ตามบางธุรกิจสามารถนิยามวัฒนธรรมองค์กรของพวกเขาให้เข้าใจได้อย่างง่ายดายในคำเดียว ซึ่งมันสามารถช่วยให้องค์กรสร้างสภาพแวดล้อมที่เกื้อหนุนให้เกิดการทำงานตามแนวทางนั้น และนําไปใช้สื่อสารกับคนนอกให้เข้าใจองค์กรได้ง่ายขึ้น ผู้เชี่ยวชาญจาก Forbe, Forbes Human Resources Council ทั้ง 15 ท่านได้สรุปนิยามวัฒนธรรมองค์กรจากธุรกิจที่ดีที่สุดออกมาเป็นคำเดียว ดังนี้
.
.
1) Freedom (ความมีอิสระ):
องค์กรระดับท๊อปที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่ดีมักจะสร้างบรรยากาศให้ทีมมีอิสระในการพูด เสนอแนวคิด และทำสิ่งต่างๆ ได้โดยไม่ขัดขวางใดๆ ซึ่งความคิดที่นําเสนอมานั้นถูกมองเป็นสมบัติล้ำค่าที่จะช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จ เพราะเขาเข้าใจว่าไม่มีใครที่สามารถตอบได้ทุกเรื่อง แต่ไอเดียดีๆ ใหม่ๆ อาจมาจากใครที่นําเสนอก็ได ้
.
2) Humanity (การมีมนุษยธรรม):
เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทเหนืองานของมนุษย์มากขึ้น ทําให้มนุษย์ถูกกันออกไป ธุรกิจที่ให้ค่ากับการมีมนุษยธรรมหรือต้องการสร้างบรรยากาศให้สัมผัสถึงคนแต่ละคนได้นั้น มักจะรักษาคน และจูงใจคนเก่งให้มาทํางานได้มากกว่า เพื่อสร้างบรรยากาศแบบนี้ในองค์กรของคุณ คุณสามารถทําได้โดยให้มีการพบปะพูดคุยส่วนตัวกับคนในทีม และหาทางเชื่อมต่อพวกเขา
.
3) Trust (ความเชื่อใจ):
มุ่งเน้นไปที่การสร้างวัฒนธรรมที่มีอิทธิพลที่แสดงถึงความเป็นตัวคุณ วิธีการปฏิบัติต่อกันและกัน และวิธีดําเนินธุรกิจของคุณ เมื่อองค์กรกําหนดสิ่งเหล่านั้น ความเชื่อมั่นจะเริ่มก่อตัวขึ้น และเมื่อนั้นคุณจะได้รับความเชื่อมั่นมากมาย รวมถึงได้รับความผูกพัน, รักษาคนไว้ได้, สร้างการมีส่วมร่วมและเติบโตไปพร้อมกัน
.
4) Respect (การให้เกียรติกัน):
องค์กรที่ผู้นำมีคำพูดและพฤติกรรมที่ให้เกียรติและเคารพผู้อื่น ไม่ว่าจะกับเพื่อนร่วมงาน พนักงาน คู่ค้า และลูกค้าจะช่วยสร้างบรรยากาศให้พนักงานพร้อมจะเติบโต พนักงานอยากจะแสดงออกและมีแรงจูงใจในการทำงานแต่ละวัน สิ่งนี้จะส่งผลต่อการพัฒนาสินค้าและพัฒนาปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าให้ดีขึ้น
.
5) Authenticity (ความน่าเชื่อถือ)
หากคุณมองหาบริษัทที่คนอยากทำงานด้วยมักจะเป็นบริษัทที่แสดงออกถึงความซ่ือสัตย์และมีจริยธรรม โดยเขาจะส่งต่อความรู้สึกนี้ไปยังพนักงาน เพื่อต่อไปยังลูกค้า
.
6) Inclusion (การอยู่ร่วมกัน):
วัฒนธรรมที่แข่งแรงสร้างความรู้สึกถึงการมีส่วนร่วมกับทุกคน รวมถึงส่งเสริมการให้เกียรติกันและให้โอกาสสำหรับทุกคน เพื่อให้ความเป็นอยูที่ดีกับพนักงาน สร้างความรู้สึกเชื่อมโยง และการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ องค์กรที่ให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกันมักจะตั้งใจดูแลคนอย่างยุติธรรม รวมถึงให้มีการเข้าถึงโอกาสต่างๆ อย่างเท่าเทียม เมื่อพนักงานรู้สึกผูกพัน พวกเขาจะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างดี
.
7) Flexibility (ความยืดหยุ่น):
ความยืดหยุ่นเป็นส่วนประกอบสําคัญของทุกองค์กร และสำคัญว่าต้องสามารถปรับเปลี่ยนให้ตรงต่อความต้องการที่เปลี่ยนไปของตลาดได้ ดังนั้น การให้อํานาจกับพนักงาน การเปิดรับความคิดสร้างสรรค์ และยอมรับในความผิดพลาดบางโอกาส ซึ่งจะทําให้คนและองค์กรได้เรียนรู้และเติบโต และขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
.
8) Communication (การสื่อสาร)
สุดท้ายแล้ว ทุกอย่างจบลงได้ด้วยการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารผ่านกลุ่มในโซเชียล, บริษัทใหญ่, แผนก, ทีมงาน หรือการพูดคุยตัวต่อตัว เพียงแค่ต้องเน้นยํ้าวิธีที่แต่ละคนสื่อสารไปยังผู้อื่น
.
9) Care (การเอาใจใส่)
ปลูกฝังวัฒนธรรมของการใส่ใจกันเพิ่มมากขึ้นในองค์กร โดยเริ่มจากผู้นำใส่ใจหัวหน้าในแผนกต่างๆ เพื่อให้หัวหน้าส่งต่อความใส่ใจนั้นไปยังพนักงาน ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้จะถูกถ่ายทอดไปยังลูกค้า
.
10) Innovation (นวัตกรรม)
วัฒนธรรมแห่งนวัตกรรมเป็นแรงบันดาลใจ กระตุ้น และผลักดันให้คนพยายามให้ถึงที่สุด บริษัทสามารถส่งเสริมนวัตกรรมได้โดยสร้าง “ห้องแห่งความคิดสร้างสรรค์” เพื่อกระตุ้นให้พนักงานคิดหาทางใหม่ๆ กระตุ้นให้กล้าเสี่ยงและเน้นยํ้าไอเดีย ปลูกฝังสภาพแวดล้อมที่คนกระหายความรู้ การแหกกฎ และสร้างสรรค์กฏใหม่จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม
.
11) Collaboration (การทำงานร่วมกัน)
องค์กรระดับท๊อปเข้าใจถึงคุณค่าของทีมงาน และตั้งใจสร้างบรรยากาศการร่วมมือกันทํางานในทีมในที่ทํางาน ทีมที่ให้ความร่วมมือกันจะทําให้เกิดความผูกพันสูง, ผลผลิตมากขึ้น, ไวต่อการเปลี่ยนแปลง, เคารพความคิดที่แตกต่าง และรักษาพนักงานไว้ได้สูง ซึ่งทําให้ธุรกิจประสบผลสําเร็จอย่างรวดเร็ว
.
12) Engagement (ความผูกพัน)
ทุกวันนี้ธุรกิจที่ดีที่สุดมีวัฒนธรรมองค์กรที่มีความผูกพัน และมีปฏิสัมพันธ์บ่อยๆ ตรวจสุขภาพองค์กร วิเคราะห์ Feedback และจัดการกับข้อมูลภายในที่เก็บผ่านกระบวนการต่างๆ เพื่อเป็นประโยชน์กับ HR และผู้นําทางธุรกิจ เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับพนักงาน
.
13) Attentiveness (ความใส่ใจ)
บริษัทที่ทำแบบสอบถามเพื่อเปิดรับ Feedback จากพนักงานทุกปีและทุกไตรมาส จะสามารถสร้างบรรยากาศ การอยู่ร่วมกันและการทำงานร่วมกันได้มากขึ้น ผู้นำสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับพนักงาน ส่งเสริมการพัฒนาสายอาชีพ สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่่แข็งแกร็ง และเพิ่มขวัญกำลังใจให้บริษัท
.
14) Inspiration (สร้างแรงบันดาลใจ)
สิ่งแวดล้อมในที่ทํางานที่เต็มไปด้วยการสร้างแรงบันดาลใจ มักจะเป็นที่ที่ทําให้คนอยากทํางานด้วยซึ่งทําให้คนอยู่กันนานขึ้น การสร้างแรงบันดาลใจทําให้เกิดความรู้สึกดีๆ ทางบวกกับทุกลําดับชั้น และผลักดันให้คนทําอย่างเต็มที่และเป็นแรงบันดาลใจต่อ ๆ ไป แล้วบริษัทจะทําอย่างไรเพื่อให้ได้แบบนั้น? นั้นคือ ต้องยอมเสี่ยงและให้รางวัลคนที่กล้าและโตขึ้น
.
15) Empowerment (การมอบอำนาจ)
บริษัทที่ให้อํานาจแก่พนักงานในการทํางานด้วยตนเอง มักจะให้ผลลัพธ์ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของผลปฏิบัติงานขององค์กร ดังนั้น การกระตุ้นให้ผู้นําขยายขอบเขตอํานาจให้กับพนักงานเพื่อทําสิ่งใหม่ๆ จะช่วยเพิ่มความเชื่อใจ ความรับผิดชอบ อันจะส่งผลลัพธ์ต่อองค์กร
.
.
A Cup of Culture
“
ที่มา:
https://www.forbes.com/sites/forbeshumanresourcescouncil/2019/11/22/15-words-to-describe-company-culture-in-top-businesses/#112464aee16c