พลังของการออกแบบ Rituals ที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กร


หนึ่งในสิ่งที่ช่วยผลักดันและขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กรให้เด่นชัด มีชีวิตชีวา ก็คือ  ‘Ritual’ หรือพูดอย่างไทย ๆ ก็คือประเพณีที่จะมาส่งเสริมให้วัฒนธรรมคงอยู่และแข็งแรงยิ่งขึ้นนั่นเอง Ritual เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดพฤติกรรมที่คาดหวัง และปฏิบัติกันซ้ำ ๆ แบบที่เป็นที่รู้กันในองค์กรว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไร และอย่างไร ฉะนั้น เมื่อพฤติกรรมหนึ่งหนึ่งถูกปฏิบัติซ้ำ ๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยความตั้งใจออกแบบมาอย่างดี เมื่อนั้นเราจะได้ Ritual ที่มีความหมายที่สามารถส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแรง
.

มี 5 ลักษณะสำคัญของ Ritual ที่ตอบโจทย์และส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กร


1. Ritual มีสัญญาณ หรือ สิ่งกระตุ้น


ทุก Ritual ต้องมี ‘สัญญาณ’ หรือ ‘สิ่งกระตุ้น’ ในการปฏิบัติที่ชัดเจน โดยสามารถเป็นได้ทั้ง การกำหนดวันเวลา เช่น ทุกเช้าวันจันทร์ 9:00 น. หรือ กำหนดด้วยกิจกรรมที่เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ เช่น ในทุก ๆ ครั้ง ก่อนเริ่มประชุม หรือ การกำหนดด้วยเหตุการณ์บางอย่างจากภายนอก เช่น เมื่อได้ลูกค้ารายใหม่, เมื่อยอดขายถึงเป้าที่ตั้งไว้, เมื่อมีสมาชิกทีมเข้ามาใหม่ เป็นต้น
Ritual ที่ดี ต้องมีช่วงเวลาเฉพาะสำหรับการปฏิบัติ ritual นั้น ๆ   


2. Ritual มีเรื่องราวครบ 3 ขั้นตอน เริ่มต้น ระหว่างทาง และตอนท้าย


เริ่มต้น คือ เริ่มเมื่อมีสิ่งกระตุ้น ใครจะเริ่มทำอะไร // ระหว่าง คือ สิ่งที่เกิดขึ้นและปฏิบัติร่วมกันเพื่อตอบสนองสิ่งกระตุ้นนั้น // และตอนจบ คือ สิ่งที่นำพาไปสู่ความรู้สึกที่จะเกิดขึ้นร่วมกันจาก Ritual นี้ ตัวอย่างเช่น การให้พนักงานได้แชร์เรื่องราวสั้น ๆ ก่อนเริ่มประชุมทีม โดย ทุกเช้าวันจันทร์ 9:00 (สิ่งกระตุ้น) ทุกคนในทีมจะนั่งล้อมวงในที่ประชุมเพื่อเตรียมอัพเดตงานประจำสัปดาห์ (ตอนต้น) ผู้นำประชุมเริ่มกิจกรรม แชร์ความสำเร็จเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนเข้าสู่การอัพเดตงาน เพื่อสร้างบรรยากาศ และพลังงานดี ๆ ในการเริ่มต้นสัปดาห์กับทีม (ระหว่างทาง) ทุกคนได้แชร์ความสำเร็จที่เกิดขึ้นและขอบคุณกันและกันสำหรับการแลกเปลี่ยนเรื่องราวดี ๆ (ตอนท้าย)


3. Ritual สร้างและส่งมอบความรู้สึกเสมอ


เมื่อ Ritual เสร็จสิ้น ความรู้สึกที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคืออะไร อะไรคือความรู้สึกที่อยากให้ผู้คนสัมผัสได้ Ritual สร้างการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของพนักงานได้ด้วยการแตะถึงความรู้สึกซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญในการผลักดันให้เกิดขึ้นอีกในครั้งถัด ๆ ไป จากตัวอย่างก่อนหน้า Ritual สร้างความรู้สึกเชิงบวก มีกำลังใจ ผ่านการบอกเล่าความสำเร็จเล็ก ๆ ระหว่างกัน ก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่การอัพเดตงานในสัปดาห์ที่ผ่านมา


4. Ritual สามารถทำได้ซ้ำ ๆ


สิ่งหนึ่งที่ทำให้ ritual กลายเป็นเอกลักษณ์และตอบโจทย์องค์กรได้จริง คือการทำซ้ำ ๆ เพื่อสร้างพฤติกรรมที่ต้องการ และแทนที่พฤติกรรมที่ขัดแย้งกับวัฒนธรรมที่องค์กรต้องการจะเป็น เพราะฉะนั้น ritual จึงควรเป็นอะไรที่สามารถทำได้ทุกวัน หรือ สัปดาห์ละครั้ง เดือนละครั้ง ขึ้นอยู่กับ เป้าหมายและสิ่งกระตุ้นของ Ritual นั้น


5. Ritual มีอยู่อย่างมีความหมาย


Ritual ต้องเป็นสิ่งที่มีความหมาย แตกต่างจาก กิจวัตรที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เนื่องจาก Ritual มีเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรม ที่พาพนักงานในองค์กรจากการมีพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่พึงประสงค์ในปัจจุบัน ไปสู่การเป็นในแบบที่อยากเห็น ผ่านการคิด ออกแบบ และลงแรง เพื่อให้เกิดขึ้นโดยง่าย เป็นธรรมชาติของคนทั้งองค์กร และปฏิบัติร่วมกันได้ซ้ำ ๆ เพื่อส่งเสริมและตอบโจทย์การแก้ปัญหาหรือผลักดันบางอย่างให้กับวัฒนธรรมองค์กร


(อ่านเพิ่มเติมเรื่องการสร้าง Ritual: 5 ขั้นตอนออกแบบ Ritual เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรอย่างตั้งใจ – Brightside People )


================================
.

4 เทคนิคประยุกต์ใช้ Ritual เมื่อทำงานไกลกัน


ในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่โลกการทำงานเปลี่ยนแปลงไปเป็น Remote-work กันมากขึ้น Ritual ยิ่งมีบทบาทสำคัญ ในการเป็นเครื่องมือทรงพลังที่ไม่ใช่แค่พาวัฒนธรรมองค์กร ไปให้ถึงบ้านพนักงานที่อยู่กันหลากหลายบริบท แต่รวมไปถึงการสร้างความผูกพันธ์ระหว่างสมาชิกทีมในช่วงที่อยู่ห่างไกลได้ด้วย ซึ่งมีตัวอย่างสำหรับการสร้าง Ritual แบบ virtue ที่พาวัฒนธรรมองค์กรไปถึงบ้านได้ 4 แนวทาง


1. สร้างพื้นที่ให้กับ Weekly Check-in


โดยปกติเมื่อถึงเวลาประชุม เราจะสามารถเห็นหรือสัมผัสบรรยากาศโดยรวมได้ พูดคุยสั้น ๆ กับเพื่อนร่วมงาน ถามไถ่เรื่องทั่วไป ก่อนที่จะเข้าสู่การเริ่มประชุม แต่เมื่อมาอยู่ที่หน้าจอ สิ่งเหล่านี้ถูกกรองและบดบังไปด้วยหลาย ๆ ประการของความไกล และความเงียบเป็นช่วง ๆ ที่อาจจะสร้างความรู้สึกประหลาดและไม่เป็นธรรมชาติ


เพื่อที่จะรับมือกับปัญหานี้ ถือโอกาสใช้ช่วงเวลาที่ทั้งทีมได้อยู่พร้อมกัน จัดสรรการทำกิจกรรมร่วมกันเล็ก ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศ กระตุ้นพฤติกรรม หรือรักษาความผูกพันของทีม เช่น จากการอัพเดตงานตามปกติ เป็นการให้ทุกคน อัพเดต 2 เรื่องงาน พร้อม 1 เรื่องส่วนตัวที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เพื่อให้ทีมทุกคนเกิดการรับรู้ได้ว่า ตอนนี้เราต่างทำงานอยู่หลากหลายบริบท และเข้าใจสถานการณ์ของเพื่อนร่วมทีมได้มากขึ้น


2. ให้เวลากับการ Check-out ของทีม


มี weekly check-in แล้ว ก็สามารถมี weekly check-out ได้เช่นกัน และเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลย อาจทำได้ทั้งการเป็น Daily / Weekly check-out ก็ได้เช่นกัน ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการแบ่ง work-life balance ให้กับทีมได้เป็นอย่างดี หรือก็คือการสร้างสัญญาณเลิกงาน แทนการลุกออกจากโต๊ะ ด้วยการ วีดิโอคอลกันสั้น ๆ ก่อนเลิกงาน 20 – 30 นาที ด้วยหัวข้อง่าย ๆ สำหรับการสะท้อนการทำงานของวัน เช่น 1 อย่างที่ทำสำเร็จในวันนี้ ความร่วมมือร่วมใจที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือ สิ่งใหม่ ๆ ที่ได้ลองทำและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งหัวข้อสำหรับการ check-out นั้นสามารถเป็นข้อคำถามที่สะท้อนการทำงานของพนักงานในวันนั้น ๆ ที่แชร์ได้ง่าย ๆ แต่สำคัญคือสอดคล้องไปกับ Core value และ วัฒนธรรมขององค์กร เพื่อเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะกระตุ้นพฤติกรรมที่พึงประสงค์ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้จะอยู่ต่างบริบทกันก็ตาม


3. เปิดโอกาสให้กับ Reflection เพื่อสร้าง Psychological safety


เนื่องจากในการ WFH ส่งผลให้พนักงานหลายคนอาจกำลังเผชิญหน้ากับความเครียดที่เกิดขึ้นจากการทำงานที่บ้าน ความกังวลในการรู้สึกว่าอาจยังทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ บริหารจัดการได้ต่างไปจากเดิม กลัวว่าจะไม่รู้เรื่องหรือพลาดบางอย่างที่สำคัญ เพราะฉะนั้นการให้พื้นที่พนักงานได้มีโอกาส reflect หรือสะท้อนถึงสถานการณ์ที่กำลังเผชิญ ความรู้สึกที่เกิดขึ้น ผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ทีมรู้สึกว่าเขาไม่ได้เผชิญปัญหาเหล่านี้อยู่คนเดียว และเป็นเรื่องที่สามารถหยิบขึ้นมาพูดเพื่อหาทางแก้ปัญหาร่วมกันได้ โดยหัวหน้าทีมมีบทบาทสำคัญในการสร้างความรู้สึกปลอดภัยให้ทีมสามารถเล่าได้ และเป็นผลดีต่อทั้งตัวเขาและทีม


(อ่านเพิ่มเติมเรื่องการสร้าง Psychological safety ในรูปแบบของ remote-work: 5 Step จาก Amy Edmonson สร้าง Psychological safety – Brightside People)


4. ให้ความสำคัญกับการ Celebrate and Connect


การสื่อสาร และเฉลิมฉลองความสำเร็จไปด้วยกัน ยิ่งเป็นเรื่องสำคัญต่อการสร้างความผูกพันธ์ในทีม และความรู้สึกร่วมถึงจุดมุ่งหมายของทีมและองค์กร เล็งโอกาสในการฉลองร่วมกันไม่ว่าจะเป็นการบรรลุเป้าหมายตาม milestone, วันเกิด หรือแม้กระทั่งวันคริสมาสต์ และวันเทศกาลต่าง ๆ ก็สามารถจัดสรรให้เกิดการฉลองร่วมกันผ่านออนไลน์ได้ ตัวอย่างเช่นบางองค์กร ใช้การจับฉลากแลกของขวัญด้วยการใช้โปรแกรมจับฉลาก และให้ชอปปิ้งออนไลน์เพื่อส่งตรงถึงบ้าน บางองค์กรจัดให้ทุกเย็นวันศุกร์ทีมเข้ามาเจอกันเพื่อแชร์ความสำเร็จของทีมที่เกิดขึ้นในสัปดาห์เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือบ่ายวันพุธที่มีการนัดทีมเข้ามาเล่นเกมในแบบ virtue ด้วยการเวียนกันมานำเกมสั้น ๆ 15 – 30 นาที เพื่อเติมพลังงานให้กันในช่วงบ่าย


A Cup of Culture
———–
#วัฒนธรรมองค์กร
#corporateculture
#culture

.
.
>>>>>

ข้อมูลอ้างอิง:

https://www.fearlessculture.design/blog-posts/how-to-design-team-rituals-to-accelerate-change

https://medium.com/ritual-design/7-work-from-home-rituals-for-virtual-teams-d7eaeaa7313f

https://blog.medium.com/check-in-rounds-a-cultural-ritual-at-medium-367fbcf15050

https://officeninjas.com/remote-team-celebrations-and-work-holidays/

.
.
>>>

Share to
Related Posts:
Search

ORG Culture Canvas full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

Search