“จากผลสำรวจของ Deloitte พบว่า 86% ขององค์กรที่ทำการสำรวจ ให้ความเห็นว่าการพัฒนา L&D (Learning and Development) คือสิ่งจำเป็นอันดับต้น ๆ ในห้วงเวลานี้ที่จะพาองค์กรให้อยู่รอด” จากสถานการณ์ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ เรากำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเพื่อความอยู่รอด และการสร้างโอกาสในการแข่งขันในเวลาเดียวกัน ทุกองค์กรต้องการประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางความท้าทายจากหลายปัจจัย หนึ่งในกุญแจสำคัญ คือ #ความรวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้การเรียนรู้นั้นจะช้าไม่ได้
เมื่อการเรียนรู้เปลี่ยนไป และ “เมื่อ L&D จะเป็นตัวเปลี่ยนเกม” สิ่งที่องค์กรสามารถพิจารณาเพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบเพื่อส่งเสริมให้พนักงานสามารถเรียนรู้แบบ Fast Track ได้แก่
1. พัฒนาที่จำเป็นเฉพาะเจาะจงขึ้น
Josh Bersin ผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนรู้ในองค์กรและการบริหารคนเก่งกล่าวว่า แนวโน้มการเรียนรู้กำลังเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง จากการพัฒนาทักษะทั่วไปที่ระบุไว้ในตำแหน่งงาน เป็นการพัฒนาความรู้ที่จำเป็นอย่างเฉพาะเจาะจงเพื่อสามารถทำงานที่ทำอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นบทบาทที่พนักงานมีต่อผลลัพธ์ทางธุรกิจในภาพรวม
จากการจัดการการเรียนรู้แบบเดิม พนักงานจะเรียนรู้ทักษะที่กำหนด ประเมินผลโดยใช้แบบทดสอบ จากนั้นจึงเชื่อมโยงความสำเร็จในการเรียนรู้กับความรู้ความเข้าใจ ความสามารถในการนำไปใช้ และผลลัพธ์ที่ส่งไปถึงการปฏิบัติงาน
ในทางตรงกันข้าม เทรนด์ใหม่ที่มุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในงาน ผู้เรียนสามารถค้นหาเนื้อหาที่เฉพาะเจาะจงที่ต้องการเรียนรู้ในงานแบบเรียลไทม์ นำไปปรับไปใช้ได้ทันที จากนั้นจึงพัฒนาทักษะโดยการฝึกฝนสิ่งที่เรียนรู้ และอ้างอิงกลับไปที่ระบบการเรียนรู้เมื่อต้องการทบทวน หรือเรียนรู้เพิ่มเติม วิธีนี้เชื่อมโยงการเรียนรู้โดยตรงกับความสามารถในการปฏิบัติงานของพนักงานเพื่อสร้างผลลัพธ์ได้โดยใช้เวลาที่สั้นลง
2. กำหนดแพลตฟอร์มการเรียนรู้กลาง
เพื่อตอบสนองการพัฒนาทักษะที่ครบถ้วนหลายองค์กรอาจต้องมีหลากหลายโซลูชั่นที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ที่สรรหามาใช้และรวบรวมจัดเก็บเพื่อติดตาม หรือนำกลับมาใช้เมื่อจำเป็น ซึ่งเป็นความท้าทายในการจัดหาทีมเพื่อบริหารจัดการองค์ความรู้เหล่านั้น รวมถึงความซับซ้อนในการค้นหาเมื่อต้องการนำกลับมาใช้ใหม่
เทรนด์ที่น่าจะตอบโจทย์คือ การสร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้ใหม่ที่จะทำหน้าที่เป็นแหล่งเก็บข้อมูลส่วนกลางสำหรับเนื้อหาทุกประเภท ตั้งแต่คู่มือการปฏิบัติงานของพนักงาน ความรู้ด้านเทคนิค ความรู้ด้านการบริหาร ไปจนถึงความรู้ทั่วไป ในหลากหลายรูปแบบเช่นภาพ วิดีโอ แบบทดสอบ ที่รวมอยู่ในที่เดียว ง่ายต่อการจัดเก็บ การค้นหา และการนำกลับมาใช้ใหม่ได้ตามวัตถุประสงค์ที่แตกต่างของทั้งองค์กร
3. เข้าถึงได้ง่าย Access Anywhere Anytime
ปัจจุบัน พนักงาน 80% ทำงานแบบ virtual office แต่การเรียนรู้ทั้งหมดยังไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เข้าถึงจากที่ไหนก็ได้ แพลตฟอร์มการเรียนรู้แบบใหม่จะกลายเป็นศูนย์กลางที่พนักงานสามารถค้นหาและเข้าถึงองค์ความรู้จากที่ไหนก็ได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อสามารถตอบคำถามเพื่อแก้ปัญหาหรือสร้างสรรค์งานในเวลาที่พวกเขาต้องการ รวมไปถึงใช้ความรู้นั้นเพื่อเพิ่มความเชี่ยวชาญในงาน รวมถึงสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่เหนือกว่า เหมาะกับความต้องการของคนทำงานสมัยใหม่ในยุคดิจิตอล
4. ใช้เวลาสั้นลง
หนึ่งในปัญหาเกี่ยวกับการเรียนรู้ในที่ทำงานคือการใช้เวลาทำงานในการเรียนรู้ที่มากเกินไป ความเจ็บปวดของฝ่าย L&D คือการได้ยินเสียงบ่นจากผู้เรียนอยู่เสมอว่าการฝึกอบรมทำให้พวกเขาเสียเวลาในการทำงาน เพราะที่สิ่งที่พวกเขาต้องการจริง ๆ คือตัวช่วยเพื่อให้ทำงานให้สำเร็จและถูกต้องเท่านั้นเอง
แพลตฟอร์มการเรียนรู้แบบใหม่ควรเน้นโครงสร้างการเรียนรู้แบบ microlearning ที่เป็นหลักสูตรที่สั้นลง และถูกออกแบบเพื่อมุ่งเน้นการลดเวลาการเรียนรู้ เพื่อไม่ให้ผู้เรียนรู้สึกว่ากระทบกับเวลางานมากเกินไป
5. เรียนรู้จากการทำงาน Learn from the job
องค์กรส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง L&D ที่มุ่งเน้นไปที่ทักษะพื้นฐานทั้ง technical skill, soft skill รวมถึงนโยบายและจริยธรรม สิ่งเหล่านี้ความสำคัญ แต่อาจยังไม่ครอบคลุมองค์ความรู้ที่จะตอบโจทย์การปฏิบัติการเชิงลึกได้โดยตรง
รูปแบบการเรียนรู้ที่ทรงพลังที่สุดคือการสร้างความรู้ใหม่อย่างรวดเร็วและยั่งยืนโดยการมีส่วนร่วมของพนักงานทุกหน่วยงาน ทุกระดับ เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้ที่เผชิญหน้า และจัดการกับปัญหาใหม่ สถานการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดในทุกวันของการทำงาน ทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ ๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึงในทฤษฎีการเรียนรู้ หรือคู่มือการปฏิบัติงานเล่มไหน ๆ สิ่งเหล่านี้เป็นเป็นโอกาสสำหรับพนักงานที่จะเรียนรู้โดยการประเมินสถานการณ์การปรับปรุงวิธีการใหม่และสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น และการรวบรวมองค์ความรู้เหล่านี้อีกหนึ่งเป็นโอกาสในการแก้ปัญหาในงานได้ทันท่วงที และสร้างคุณค่าที่ประเมินไม่ได้
บทสรุป -ทั้งหมดนี้คือ 5 เทรนด์ ที่น่าจะเป็นแนวทางในการตอบโจทย์รูปแบบการเรียนรู้แบบ Fast Track เพื่อส่งเสริมให้พนักงานเรียนรู้อย่างเท่าทันทุกการเปลี่ยนแปลงสนใจการออกแบบสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้ ท้ายสุดนี้…ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม วัฒนธรรมองค์กรจะเกิดขึ้นอยู่ดี ทำไมเราไม่มาสร้างวัฒนธรรมองค์กรในแบบที่เราอย่างเห็นกันละ”
A Cup of Culture
———–
#วัฒนธรรมองค์กร
#corporateculture
#culture

ที่มาของบทความ
https://www.forbes.com/…/the-future-of-learning-top-five-…/…
https://hbr-org.cdn.ampproject.org/…/give-your-workers-the-…