เรามักได้ยินคำกล่าวที่ว่า “Culture eats strategy for breakfast” โดย Peter Drucker นักเขียนและที่ปรึกษาผู้บุกเบิกแนวคิดด้านการบริหารจัดการองค์กร ถ้าแปลตรงตัวก็คือ “วัฒนธรรมองค์กรจะกลืนกินกลยุทธ์ขององค์กรเป็นอาหารเช้า” เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น..?.
หากจะขยายความให้ชัดเจนแล้ว ไม่ใช่การมีกลยุทธ์ในองค์กรจะเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญ แต่นอกเหนือจากกลยุทธ์ที่แยบยลแล้วยังมีอีกหลายปัจจัยสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนกลยุทธ์นั้นให้สำเร็จ ในขณะที่เกือบทุกองค์กรกำลังต่อสู้กับความท้าทายที่เข้ามาโดยการวางกลยุทธ์ในการปรับเปลี่ยนเพื่อความอยู่รอด แต่ความพลาดที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะกลยุทธ์เหล่านั้นมีข้อบกพร่อง แต่เป็นเพราะในทางปฏิบัติองค์กรไม่สามารถทำตามกลยุทธ์เหล่านั้นได้จริง .
และอุปสรรค 5 ประการ ที่ทำให้กลยุทธ์ขององค์กรนั้นล้มเหลว มีดังนี้. . . . . . . . . . . . .
1. ค่านิยมและเป้าหมายไม่ชัดเจน
โดยทั่วไปกลยุทธ์ถูกสร้างขึ้นโดยบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จากนั้นกระบวนการและวิธีการจะถูกส่งต่อไปยังผู้ปฏิบัติในหลากหลายส่วนงาน แต่หากผู้ปฏิบัติไม่ได้มีความเชื่อ หรือความเข้าใจถึงความสำคัญ ที่มา และเป้าหมายที่ชัดเจน จึงเป็นความท้าทายที่การปฏิบัติเหล่านั้นจะเกิดขึ้นได้จริง
สิ่งที่สังเกตได้จากอุปสรรคนี้ได้แก่:
• ไม่มีค่านิยมองค์กรและชุดพฤติกรรมที่เป็นแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน
• พนักงานรู้สึกถึงการมีงานเพิ่ม เนื่องจากไม่เห็นความเกี่ยวข้องกับคุณค่าหรือผลที่จะได้รับอย่างชัดเจน
2. ขาดประสิทธิภาพของผู้นำ
อีกหนึ่งประเด็นที่มักพบในหลายองค์กรคือ การขาดประสิทธิภาพของผู้นำ โดยการสื่อสารที่ชัดเจน (Say) ทำตัวเป็นแบบอย่าง (Behave) และการสนับสนุนนโยบายหรือกระบวนการในการปฏิบัติ (Operate) ส่งผลให้ขาดความไว้วางใจ ขาดความมุ่งมั่น และเกิดความเข้าใจที่แตกต่าง และบางกรณีนำไปสู่ความขัดแย้ง
สิ่งที่สังเกตได้จากอุปสรรคนี้ได้แก่:
• ผู้นำไม่ได้ทำตนเป็นแบบอย่างให้เห็น
• ผู้นำแต่ละฝ่ายสื่อสารไม่ตรงกันเกี่ยวกับกลยุทธ์และลำดับความสำคัญ
• เวลาส่วนใหญ่ในการประชุมหมดไปกับการนำเสนอข้อมูลหรืออัปเดตรายละเอียดงานในระยะสั้น หลีกเลี่ยงการพูดถึงปัญหาในการประชุม เพื่อแก้ไขปัญหาเชิงกลยุทธ์
3. ขาดการประสานงานและความร่วมมือ
การประสานงานและความร่วมมือระหว่างหน่วยงานมีความสำคัญอย่างมากต่อการดำเนินการตามกลยุทธ์อย่างมีประสิทธิภาพ การปกป้องตนเอง มองภารกิจของตนเองเป็นใหญ่ มากกว่าเป้าหมายภาพรวม จะทำให้ลดทอนความคล่องตัวในการทำงาน ขาดโอกาสในการรับรู้ในข้อบกพร่อง เพื่อสร้างสรรค์วิธีการแก้ปัญหาจากอุปสรรคที่คาดไม่ถึง
สิ่งที่สังเกตได้จากอุปสรรคนี้ได้แก่:
• พนักงานมองว่าเป้าหมายของหน่วยงานตนเองสำคัญกว่าเป้าหมายภาพรวม
• แต่ละหน่วยงานทำงานแบบต่างคนต่างทำ การประสานงานและความร่วมมือระหว่างหน่วยงานขาดความสอดคล้องเพื่อเป้าหมายร่วม
• บทบาทความรับผิดชอบ และขอบข่ายในการตัดสินใจไม่ชัดเจน การดำเนินงานล่าช้า
4. ขาดการพัฒนาผู้นำทีมอย่างเหมาะสม
การวิจัยพบว่าผู้จัดการส่วนมากได้ปรับตำแหน่งมาเป็นผู้จัดการจากประสบการณ์ในการทำงานอันยาวนาน หรือความเชี่ยวชาญในงานที่ทำ ซึ่งบางครั้งเป็นชุดความสามารถที่แตกต่างจากการเป็นผู้นำทีม จึงทำให้เกิดปัญหาด้านการสื่อสาร การทำตนเป็นแบบอย่าง หรือการประสานงานตามที่กล่าวมาข้างต้น หากไม่มีการพัฒนาผู้นำ เพื่อสร้างทัศนคติ และพฤติกรรมที่สอดคล้องกับค่านิยมขององค์กร การพัฒนาจึงเป็นไปได้ยาก
สิ่งที่สังเกตได้จากอุปสรรคนี้ได้แก่:
• องค์กรไม่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านการบริหารคนจึงไม่ค่อยมีการจัดการพัฒนาผู้นำ
• ไม่มีแนวทางในการคัดสรรผู้นำที่เหมาะสม และสมดุลทั้งการบริหารงานและบริหารคน
• เกิดปัญหาจากการบริหารทีมงานเรื่องเดิม ๆ ซ้ำ ๆ
5. การสื่อสารไม่เพียงพอ
การสื่อสารที่ไม่ตรงไปตรงมา และไม่เพียงพอเป็นอุปสรรคตัวร้ายสำหรับการดำเนินตามกลยุทธ์ ข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับทิศทางและค่านิยมเชิงกลยุทธ์ขององค์กรจะไม่สามารถส่งต่อจากทีมผู้บริหาร ไปสู่ผู้จัดการ และผู้ปฏิบัติงาน และในทางตรงกันข้าม อุปสรรค ปัญหา หรือแนวคิดเชิงสร้างสรรค์จากผู้ปฏิบัติงานก็จะไม่สามารถส่งต่อไปถึงผู้จัดการและทีมผู้บริหารได้
สิ่งที่สังเกตได้จากอุปสรรคนี้ได้แก่:
• ไม่ค่อยมีการสื่อสารเป้าหมายภาพรวมจากผู้นำองค์กร
• ช่องทางในการสื่อสารมีน้อย รวมถึงขาดช่องทางและโอกาสสำหรับพนักงานในการแสดงความคิดเห็นไปยังผู้จัดการ หรือผู้บริหาร
• การพูดถึงปัญหา หรืออุปสรรค ถูกมองเป็นเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควร.
จะเห็นได้ว่า กลยุทธ์ขององค์กรจะนำไปสู่การปฏิบัติได้จริงหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับ ค่านิยม ความเชื่อ ซึ่งเป็นตัวกำหนดพฤติกรรม ของคนใน วัฒนธรรมที่แข็งแกร่งที่ไม่ว่าจะเกิดจากความตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจสามารถส่งผลให้องค์กรให้เติบโตอย่างรวดเร็วหรือในทางตรงกันข้าม รู้แบบนี้แล้วทำไมเราไม่มาสร้างวัฒนธรรมในแบบที่อยากเห็น เพื่อให้กลยุทธ์ไม่ถูกกินเป็นอาหารเช้ากัoล่ะ
=============================== อ่านบทความอื่นๆได้ที่ https://brightsidepeople.com/blog/
===============================
A Cup of Culture
———–
#วัฒนธรรมองค์กร
#corporateculture
#culture
.
.
.

.
.
ที่มาของบทความ
https://www.linkedin.com/pulse/culture-eats-strategy-breakfast-true-kalilur-rahman/
https://hbr-org.cdn.ampproject.org/c/s/hbr.org/amp/2020/06/6-reasons-your-strategy-isnt-working