เมื่อย่างเข้าไปใน office ของ Spotify ใน Stockholm คุณจะอุทานว่า wow ที่ดังกว่า office ของเหล่า startup ทุกๆแห่งในโลก ด้วยการตกแต่งที่ไม่มีคำว่าสถานที่ทำงานตามขนบให้หลงเหลือ มุมกาแฟสุดแฟนซี โซฟาที่แสนนุ่มชวนเอขนก ตู้เกมส์เรียงราย โต๊ะปิงปองและดาดฟ้าที่โอบกอดด้วยวิวของสถานสำคัญของ Stockholm ที่บรรยากาศนั่งจิบกาแฟกินขนมคุยกันแบบสวีดิชที่เรียกว่า Fika อันเป็นเอกลักษณ์ และที่สำคัญเพลย์ลิสท์คูลๆที่ถูกเปิดเป็น background music ตลอดวัน
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ Spotify ต่างไปจากองค์กรหรือเหล่า startup อื่นๆ ขนาดนั้น การวางโครงสร้างที่ต่างอย่างสุดขั้วในการบริหารคนกว่า 5,000 คนทั่วโลกแบบแทบไม่มีลำดับขั้นเลยต่างหากที่แยกพวกเขาออกจากคนอื่นๆ คำว่า Squads, Tribes, Alliances, Chapter และ Guilds เป็นคำที่ถูกพูดถึงบ่อยๆและเป็นรูปแบบการบริหารการทำงานแทนการแบ่งเป็นแผนกเป็นฝ่าย หรือการบริหารตามสายการบังคับบัญชา พวกเขาทำได้อย่างไรในความเป็นจริง สิ่งหนึ่งที่น่าจะอธิบายภาพใหญ่ของการทำงานคือ การมององค์กรเป็นแบบ snapshot ไม่ใช่แบบเห็นตั้งแต่ต้นจนจบ a cup of culture ขอลงรายละเอียดมิติการรวมตัวกันเพื่อทำงานแบบ snapshot ที่ว่าดังนี้ (เป็นรูปแบบองค์กรที่ถูกเผยแพร่ในปี 2016 ซึ่งได้มีการพัฒนาและปรับเปลี่ยนไปจากนี้บ้างแล้วในปัจจุบัน)

Squads
คือหน่วยของการทำงานร่วมกันที่ย่อยที่สุดของ Spotify ซึ่งประกอบด้วยคน 6-12 คนในหน้าที่ต่างๆนั่งทำงานด้วยกันในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และให้มองตัวเองเป็น startup รายหนึ่ง โดยจัดการตนเองและเลือกวิธีการทำงานร่วมกันเองเช่นแบบ Scrum sprints, Kanban หรืออื่นๆที่คิดว่าเหมาะสม โดยแต่ละ Squad มี mission ร่วมกันที่ตอบโจทย์ของ Spotify ในแต่ละส่วนของ customer journey ในระยะยาวเพื่อสร้างความเป็น expertise ในส่วนงานนั้นๆ โดยแต่ละ squad จะมี office และเลาจ์เป็นของตัวเอง และมีฝาพนังจะเป็นไวท์บอร์ดเป็นส่วนใหญ่
.
.

Tribes
แต่ละ squad รวมกันเป็นกลุ่มก้อนเรียกว่า Tribe ที่แบ่งเป็นด้านใหญ่ๆเช่น music player หรือ back-end infrastructure โดย Tribe เป็นเสมือนผู้บ่มเพาะธุรกิจของ startup (incubator) ซึ่งจะมี Tribe lead คอยอำนวยความสะดวกทุกๆด้านให้แต่ละ Squad โดยในแต่ละ Tribe จะทำงานและมีมุมเลาจ์ใกล้ๆกันเพื่อประสานงานกันได้ง่าย แก้ปัญหาได้ทันท่วงที แต่ละ Tribe มีคนประมาณ 40-50 คน เพราะหากใหญ่เกินไป จะเริ่มมีลำดับชั้นและกฏระเบียบที่ไม่จำเป็นซึ่งทำให้เสียเวลาและทรัพยากรมาก และบางครั้งมีการเมืองมาเกี่ยวข้อง โดย Tribes จะรวมตัวเป็น Alliance ที่ตอบสนองตัวชี้วัดทางธุรกิจเดียวกัน
.
.

Chapters
ในระหวาง Squad ของแต่ละ Tribe จะมีคนที่ทำหน้าที่และมีทักษะคล้ายกันๆภายใต้ competency เดียวกันและจะพบปะกันเป็นระยะๆในรูปแบบ Chapter เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทักษะและปัญหาต่างๆ ซึ่งแต่ละ Chapter จะมี Chapter Lead ทำตัวเสมือน Line Manager เพื่อดูแลสารทุกข์สุกดิบ เงินเดืนอและการพัฒนาคนในฐานะผู้จัดการ ซึ่งที่น่าสนใจด็คือ Chapter Lead ก็คือคนใน Squad หนึ่งๆซึ่งต้องมีงานของตนในแต่ละวันและนั่นคือโลกของความเป็นจริง ไม่ใช้ตำแหน่งความเป็นหัวหน้า
.
.

Guilds
กลุ่มที่กว้างและรวมตัวกันเองแบบธรรมชาติคือกลุ่มก้อนของ Guild เพราะเป็นกลุ่มใหญ่ข้าม Tribe โดยมีความสนใจเดียวกันและอยากจะแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเองในวงที่กว้างขึ้นทั้งในงานเช่น Java, C++ หรือ Android และงานอดิเรกเช่นการทำ คราฟเบียร์หรือการถ่ายภาพ ซึ่งแน่นอนจะมีคนใน Chapter เดียวกันมารวมตัวกันอยู่แต่ก็สามารถไปเข้า Guild อื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับงานของตนได้เพื่อการเรียนรู้
ที่ Spotify ไม่นิยมมีเครื่องไม้เครื่องมือที่บริหารคนที่ซับซ้อนเช่น Performance Management หรืออะไรที่คล้ายๆกัน หากแต่เชื่อในการที่นี่เน้นการเจอกันแบบตัวต่อตัวและโค้ชกันแบบสม่ำเสมอมากกว่า โดยส่งเสริมการให้ feedback กันจนเป็นเรื่องปกติ ทั้งระหว่างพนักงานกันเอง หรือ Chapter Lead กับทีมใน Chapter ของตน
อย่างไรก็ดี ภายใน Spotify เองก็ยังต้องแก้ปัญหาและพัฒนาโครงสร้างการทำงานในแบบของตนไปเรื่อยๆแบบไม่มีวันจบ เพราะเชื่อเรื่อง journey in progress มากกว่า journey completed (ปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนไปจากนนี้บ้างแล้ว) แต่นี่ก็เป็นเสน่ห์ที่ คนมากมายทั่วโลกอยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านหลังนี้ และแน่นอน การทำงานในแบบ Scaling Agile แบบสุดขั้วของ Spotify ไม่ได้เหมาะกับทุกๆองค์กร ควรปรับบางแง่มุมที่เป็นประโยชน์มาทดลองใช้ในส่วนเล็กๆก่อนมากกว่าจะ copy and paste ทั้งหมด
A Cup of Culture
———–
#วัฒนธรรมองค์กร
#corporateculture
#culture

แหล่งที่มาของบทความ
https://corporate-rebels.com/spotify-1/
https://fivetonine.co/blog/spotify-culture-social-fresh