“It’s Not My Job!” เมื่อประโยคเล็กๆ สะท้อนปัญหาใหญ่ในองค์กร


เคยได้ยินเพื่อนร่วมงานพูดทำนองว่า “งานนี้มันไม่ใช่หน้าที่ของฉัน” หรือ “นี่ไม่ใช่งานของฉันทำไมฉันต้องทำด้วย?” อยู่บ่อยๆ คุณจะรู้สึกอย่างไรครับ? หากประโยคเล็กนี้กำลังค่อยๆ ก่อตัวขึ้นภายในทีมของคุณ นี่คือสัญญาณที่กำลังสะท้อนปัญหาใหญ่ของวัฒนธรรมองค์กร


ประโยคสั้นๆ นี้ขัดแย้งโดยตรงกับคำว่า teamwork และ flexibility โดยเฉพาะในยุคที่องค์กรต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนอยู่ตลอดเวลา คนที่มีความยืดหยุ่น พร้อมจะช่วยเหลือทีม และเปิดรับภารกิจใหม่ๆ คือ สินทรัพย์หรือทรัพยากรที่มีมูลค่าขององค์กร ในทางกลับกัน เมื่อเราได้ยินคำว่า “ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน” มันมักจะเป็นสัญญาณเตือนถึงการขาดแรงจูงใจ ความไม่พอใจ หรือแม้กระทั่งอาการหมดไฟในการทำงาน


บทความชิ้นหนึ่งจาก thoughtfulleader.com/ ได้เจาะลึกถึง 5 สาเหตุเบื้องหลังพฤติกรรม “ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน” ที่เราอาจได้ยินในที่ทำงาน และการสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่เอื้อต่อความร่วมมือมากขึ้นจะทำอย่างไรได้บ้าง



5 สาเหตุเบื้องหลังพฤติกรรม “ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน”

เมื่อพนักงานรู้สึกว่าความทุ่มเทของตนไม่มีค่า หรือไม่ได้รับการยอมรับ พวกเขาเริ่มตั้งคำถามว่า “จะพยายามไปทำไม?” หากไม่มีการชื่นชมหรือความเท่าเทียมในการรับรู้ผลงาน คนเหล่านี้ย่อมไม่เต็มใจที่จะก้าวออกจากกรอบหน้าที่ของตัวเอง

เมื่อการแบ่งงานหรือความรับผิดชอบไม่สมดุล บางคนอาจรู้สึกว่าตัวเองถูกเอาเปรียบ พวกเขาจึงเลือกที่จะ “ถอย” เพื่อรักษาความเป็นธรรมในแบบของตัวเอง แม้จะไม่ได้แก้ปัญหาในภาพรวม แต่นี่คือกลไกป้องกันตัวเองที่พบเห็นได้บ่อย

ตามทฤษฎีของ Herzberg ปัจจัยพื้นฐานอย่างเงินเดือน ความปลอดภัยในการทำงาน หรือสภาพแวดล้อม หากไม่เพียงพอจะส่งผลต่อความพึงพอใจโดยตรง คนที่รู้สึกว่าไม่ได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม มักจะไม่เต็มใจที่จะช่วยเหลืองานที่นอกเหนือจากหน้าที่ของตัวเอง

ในยุคที่ภาวะหมดไฟและ “การลาออกเงียบๆ” กำลังเพิ่มขึ้นในองค์กรสมัยใหม่ คนทำงานหลายคนเลือกที่จะทำเพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อปกป้องสุขภาพจิตและชีวิตส่วนตัว ในองค์กรที่มีภาระงานล้นเกิน คำว่า “ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน” อาจเป็นเกราะป้องกันตัวเองมากกว่าการต่อต้าน

บางครั้งพนักงานที่ปฏิเสธงานอาจไม่มั่นใจว่าตัวเองจะทำได้ดี การปฏิเสธจึงดูปลอดภัยกว่าการยอมรับว่า “ฉันไม่รู้” ในองค์กรที่ไม่เปิดรับการยอมรับข้อผิดพลาด พนักงานมักจะเลือกปิดบังแทนที่จะขอความช่วยเหลือ


สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำคือ การเข้าใจต้นตอของพฤติกรรมให้ลึกซึ้ง แทนที่จะมองว่านี่เป็นเพียงการไม่ให้ความร่วมมือ การเปิดพื้นที่สนทนาอย่างจริงใจอาจเผยให้เห็นความรู้สึกของพนักงาน และจุดที่องค์กรควรปรับปรุง

การแสดงความชื่นชมไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณมากมาย แต่มีผลกระทบอย่างมหาศาลต่อความรู้สึกของทีม เมื่อคนรู้สึกว่าความพยายามของพวกเขาได้รับการเห็นคุณค่า พวกเขาก็พร้อมจะทุ่มเทมากขึ้น

เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สำคัญ ผู้นำควรทบทวนภาระงานของทีมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครต้องแบกรับมากเกินไป หรือน้อยเกินไป ความเท่าเทียมในการกระจายงานสร้างความรู้สึกยุติธรรมและเคารพซึ่งกันและกัน

วัฒนธรรมที่ปลอดภัยในการเรียนรู้คือ การส่งเสริมให้พนักงานกล้าที่จะรับงานใหม่ๆ ที่ท้าทาย โดยไม่กลัวความล้มเหลวเป้าหมายสูงสุดคือการเปลี่ยนจากวัฒนธรรม “ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน” เป็น “ฉันจะช่วยอย่างไรได้บ้าง?” ซึ่งจะเกิดขึ้นได้เมื่อทุกคนในองค์กรรู้สึกได้รับการเห็นคุณค่า ได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรม และมีพื้นที่ปลอดภัยในการเรียนรู้


บทสรุป พฤติกรรมหนึ่งๆ ไม่ได้เกิดขึ้นโดยลำพัง แต่มันสะท้อนถึงวัฒนธรรมองค์กรในระดับลึก หากเราตอบสนองด้วยความเข้าใจมากกว่าการตัดสิน คำว่า “ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน” อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาวัฒนธรรมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ความร่วมมือ และการเติบโตที่ยั่งยืน


A Cup of Culture
────
วัฒนธรรมองค์กร
corporateculture
organizationalculture
.
.

Source:
https://www.thoughtfulleader.com/its-not-my-job/

Share to
Related Posts:
Search

ดาวน์โหลดตัวอย่างเครื่องมือบางส่วนจาก Values Uncovered ขอบคุณที่ให้ความสนใจในเครื่องมือของเรา

ORG Culture Canvas full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

Search