ในยุคที่ AI (ปัญญาประดิษฐ์) มีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล องค์กรสามารถใช้ AI เพื่อดึงดูด รักษา และเพิ่มการมีส่วนร่วมของพนักงาน ลดกระบวนการที่ซับซ้อน และทำให้สามารถมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์ได้มากขึ้น การปรับใช้ AI อย่างเหมาะสมจะช่วยให้องค์กรแข่งขันในตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
🚩AI กับบทบาทในการบริหารองค์กร
ปัจจุบัน AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงาน HR โดยลดงานซ้ำซ้อนและช่วยให้ HR สามารถโฟกัสงานเชิงกลยุทธ์ได้มากขึ้น ทั้งในด้านการสรรหาพนักงาน วิเคราะห์เรซูเม่ และสร้างเนื้อหาประกาศรับสมัครงานได้อย่างแม่นยำ รวมถึงการรับเข้าออกของพนักงาน ที่ AI สามารถจัดการเอกสารได้อย่างอัตโนมัติ จึงลดกระบวนการเอกสาร ลดภาระงานธุรการ รวมถึงยังช่วยในเรื่องของการวางแผนกำลังคน คาดการณ์อัตราการลาออก และพัฒนาแชทบอทเพื่อตอบคำถามพนักงานอีกด้วย
จากบทความของ McKinsey เรื่อง “Superagency in the workplace: Empowering people to unlock AI’s full potential” พบว่าปัญหาสำคัญของการนำ AI มาใช้ในองค์กรไม่ได้มาจากพนักงาน แต่เกิดจากผู้นำที่ยังไม่เร่งรัดการนำ AI มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในปี 2025 ผู้นำที่ประสบความสำเร็จจะต้องไม่เพียงมุ่งเน้นกลยุทธ์ธุรกิจเท่านั้น แต่ยังต้องสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งและสามารถนำ AI มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
🚩AI กับวัฒนธรรมองค์กร
AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ยังมีบทบาทสำคัญต่อค่านิยมขององค์กรอีกด้วย โดยเฉพาะในเรื่องสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน ความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน และความรับผิดชอบต่อสังคม องค์กรที่สามารถใช้ AI เพื่อสนับสนุนพนักงานแทนที่จะเน้นแต่กระบวนการทำงาน จะสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานร่วมกันได้มากขึ้น
ที่ Microsoft เชื่อว่า แนวคิดเรียนรู้ตลอดเวลา (learn-it-all) สำคัญกว่าการคิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่าง (know-it-all) และการเรียนรู้ AI เป็นทักษะที่ต้องฝึกฝนต่อเนื่อง โดยแนะนำ 3 แนวทางหลักในการนำ AI มาใช้ในองค์กร:
- กำหนดแนวทางที่ปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ – ระบุเครื่องมือที่ใช้ได้ ข้อมูลที่เหมาะสม และแนวทางในการตรวจสอบความถูกต้อง
- ส่งเสริมการเรียนรู้ AI อย่างต่อเนื่อง – ผสานการเรียนรู้เข้ากับการทำงาน เช่น เวลาศึกษาประจำสัปดาห์ หรือการแบ่งปันความรู้ระหว่างเพื่อนร่วมงาน
- บริหารการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบ – ตั้งเป้าหมาย เลือกผู้นำโครงการ และสนับสนุนทีมงานให้ปรับตัวสู่การทำงานรูปแบบใหม่อย่างมีโครงสร้าง
จากบทความของ SK-Pharma เรื่อง “How AI Implementation Will Transform Corporate Culture in 2025: What to Expect and How to Prepare” พบว่าในปี 2025 พนักงานจะใช้ AI เพื่อช่วยตัดสินใจโดยอิงจากข้อมูลมากขึ้น ลดการพึ่งพาสัญชาตญาณ และพัฒนา workflow ให้ทีมสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ AI ยังช่วยให้พนักงานมีเวลาในการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโตขององค์กร ซึ่งการนำ AI มาใช้ในองค์กรให้ประสบความสำเร็จนั้น จำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมด้านวัฒนธรรมและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน
🚩 7 แนวทางในการนำ AI มาใช้ในปี 2025 อย่างเป็นรูปธรรม
1) ส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรม
กระตุ้นให้พนักงานทดลองใช้ AI และนำเสนอแนวทางใหม่ ๆ เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันได้
ตัวอย่าง:
- จัดเวิร์กช็อปหรือโครงการทดลองที่ให้พนักงานมีโอกาสใช้งาน AI ในงานประจำวัน เช่น การใช้ AI เพื่อช่วยวิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาดหรือปรับปรุงกระบวนการทำงาน
- สร้างแพลตฟอร์มหรือช่องทางภายในองค์กรให้พนักงานสามารถเสนอไอเดียเกี่ยวกับการใช้ AI ได้ เช่น Hackathon หรือ AI Innovation Challenge
2) ลงทุนในการฝึกอบรมพนักงาน
พัฒนาโปรแกรมอบรมที่ช่วยให้พนักงานเข้าใจและสามารถใช้งาน AI ได้อย่างมั่นใจ ลดความกังวลและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ตัวอย่าง:
- จัดอบรมเกี่ยวกับพื้นฐาน AI, การใช้งานเครื่องมือ AI ที่เกี่ยวข้องกับงาน และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practices)
- สร้าง Learning Path ให้พนักงานสามารถเรียนรู้การใช้ AI ตามระดับความเชี่ยวชาญ ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับสูง
- ใช้ AI-Based Learning Platform ที่สามารถแนะนำคอร์สเรียนที่เหมาะสมตามทักษะของพนักงานแต่ละคน
3) รักษาการสื่อสารที่เปิดกว้าง
อธิบายเหตุผลในการนำ AI มาใช้ พร้อมทั้งข้อดีและข้อจำกัด เพื่อสร้างความไว้วางใจและลดความกังวลของพนักงาน
ตัวอย่าง:
- จัดประชุม Town Hall หรือใช้แพลตฟอร์มภายในองค์กรเพื่อให้ผู้บริหารอธิบายวัตถุประสงค์ของการนำ AI มาใช้ พร้อมเปิดโอกาสให้พนักงานสอบถามและแสดงความคิดเห็น
- สร้างเอกสารหรือวีดิทัศน์ให้ความรู้เกี่ยวกับข้อดี ข้อจำกัด และแนวทางการใช้งาน AI อย่างโปร่งใส
- มีช่องทาง Feedback เช่น ฟอร์มหรือแชทบอท เพื่อให้พนักงานสามารถแจ้งข้อกังวลหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับ AI
4) ประเมินค่านิยมองค์กรใหม่
บริษัทสามารถปรับกรอบลำดับความสำคัญทางวัฒนธรรมให้สอดคล้องกับการใช้ AI โดยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ การทำงานเป็นทีม และมอง AI เป็นเครื่องมือเสริมแทนที่จะเป็นสิ่งที่มาแทนที่มนุษย์ ด้วย AI ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน ธุรกิจสามารถให้ความสำคัญกับผู้คนมากขึ้น ส่งผลให้ความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน ความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน และความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรกลายเป็นประเด็นสำคัญยิ่งขึ้น
ตัวอย่าง:
- ปรับนโยบายการทำงานให้รองรับการใช้ AI โดยสนับสนุนการทำงานแบบ Hybrid หรือ Automation-Friendly Workflows
- ส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI เช่น ให้พนักงานมีบทบาทในการกำกับดูแลการใช้ AI แทนที่จะมองว่า AI มาแทนที่งานของพวกเขา
- พัฒนาเกณฑ์การประเมินผลพนักงานใหม่ที่รวมการใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น พิจารณาการใช้ AI เป็นเครื่องมือสนับสนุนแทนการทำงานแบบดั้งเดิมทั้ง
5) นำ AI มาใช้ในงานเชิงกลยุทธ์
AI สามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและสนับสนุนการตัดสินใจที่แม่นยำขึ้น โดยองค์กรควรใช้ AI เป็นเครื่องมือช่วยประเมินแนวโน้มตลาด ความต้องการของลูกค้า และโอกาสในการพัฒนาธุรกิจ
ตัวอย่าง:
- ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า เช่น Predictive Analytics เพื่อคาดการณ์แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคและออกแบบแผนการตลาดที่ตรงเป้าหมาย
- นำ AI มาใช้ในกระบวนการตัดสินใจทางธุรกิจ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินและการลงทุน เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการเติบโต
- ใช้ AI ในการจัดการซัพพลายเชน เช่น คาดการณ์ความต้องการของสินค้า ลดต้นทุนการจัดเก็บ และปรับปรุงประสิทธิภาพการขนส่ง
6) เสริมสร้าง AI ให้มีความสามารถด้านความคิดสร้างสรรค์
AI ไม่ได้ใช้แค่การวิเคราะห์ข้อมูล แต่สามารถช่วยคิดไอเดียใหม่ ๆ เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ ครีเอทีฟแคมเปญ หรือการสร้างคอนเทนต์
ตัวอย่าง:
- ใช้ AI-Generated Content ในงานด้านการตลาด เช่น การเขียนโฆษณา การสร้างไอเดียสำหรับแคมเปญ หรือการพัฒนาเนื้อหาบนโซเชียลมีเดีย
- นำ AI มาใช้ในงานออกแบบ เช่น การช่วยสร้างแนวคิดผลิตภัณฑ์ใหม่โดยใช้ Generative Design
- ใช้ AI เพื่อช่วยนักพัฒนาและนักสร้างสรรค์ให้มีไอเดียใหม่ ๆ เช่น AI-assisted Brainstorming Tools
7) ผสาน AI เข้ากับระบบงาน
AI สามารถช่วยลดภาระงานที่ซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการทางธุรกิจ เช่น การใช้ AI ในระบบ HR เพื่อคัดกรองใบสมัคร การใช้ chatbot ในการตอบคำถามลูกค้า หรือการวิเคราะห์ข้อมูลด้านต่าง ๆ ล่วงหน้า
ตัวอย่าง:
- ใช้ AI ในแผนกทรัพยากรบุคคล (HR) เช่น การคัดกรองใบสมัครเบื้องต้น การวิเคราะห์แนวโน้มการลาออกของพนักงาน และการพัฒนาโปรแกรมพนักงานสัมพันธ์
- นำ AI มาใช้ในบริการลูกค้า เช่น Chatbot ที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และ AI ที่ช่วยวิเคราะห์ความคิดเห็นของลูกค้าเพื่อพัฒนาการให้บริการ
- ใช้ AI เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของงานซ้ำซ้อน เช่น การประมวลผลเอกสารอัตโนมัติ การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ และการช่วยแนะนำการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
บทสรุปส่งท้าย
AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในองค์กร ไม่ใช่แค่ในด้านประสิทธิภาพการทำงาน แต่ยังมีผลต่อวัฒนธรรมและค่านิยมขององค์กรด้วย ผู้นำที่สามารถปรับตัวและใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพจะสามารถสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้อต่อการเติบโต นำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้ในอนาคต
A Cup of Culture
────
วัฒนธรรมองค์กร
corporateculture
organizationalculture
.
.

Verlinden, N. (n.d.). AI in HR: The impact of artificial intelligence on human resources. AIHR. https://www.aihr.com/blog/ai-in-hr/
Walters, T. (2024, December 6). How AI can help you attract, engage, and retain the best talent in 2025. Computer Weekly. https://www.computerweekly.com/opinion/How-AI-can-help-you-attract-engage-and-retain-the-best-talent-in-2025
Mayer, H., Yee, L., Chui, M., & Roberts, R. (2025, January 28). Superagency in the workplace: Empowering people to unlock AI’s full potential. McKinsey & Company. https://www.mckinsey.com/capabilities/mckinsey-digital/our-insights/superagency-in-the-workplace-empowering-people-to-unlock-ais-full-potential-at-work
SK-Pharma. (2025, January 28). How AI implementation will transform corporate culture in 2025: What to expect and how to prepare. SK-Pharma. https://sk-pharma.com/media/how-ai-implementation-will-transform-corporate-culture-in-2025-what-to-expect-and-how-to-prepare/
