7 พฤติกรรมของผู้นำ ที่ผลักให้ทีมหมดไฟโดยไม่รู้ตัว

พฤติกรรมของผู้นำ


“ภาวะหมดไฟในการทำงาน” หรือ Burnout ไม่ใช่แค่คำฮิตอีกต่อไป แต่กลายเป็นปัญหาเรื้อรังในที่ทำงานอย่างแท้จริง จากข้อมูลของ Gallup พบว่า พนักงานกว่า 76% เคยรู้สึกหมดไฟในการทำงาน และหนึ่งในต้นตอหลักของปัญหานี้ก็คือ “พฤติกรรมของผู้นำ”


แม้ว่าผู้นำส่วนใหญ่ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี แต่หลายพฤติกรรมที่ทำไปโดยไม่รู้ตัว กลับส่งผลให้ทีมงานรู้สึกเครียด หมดกำลังใจ และอยากลาออกในที่สุด มาดูกันว่า 7 พฤติกรรมของผู้นำ ที่ผลักดันทีมให้หมดไฟมีอะไรบ้าง พร้อมแนวทางแก้ไขอย่างมืออาชีพ



7 พฤติกรรมของผู้นำ ที่ผลักให้ทีมหมดไฟโดยไม่รู้ตัว

แม้การตั้งเป้าหมายสูงจะช่วยกระตุ้นให้ทีมพัฒนา แต่หากความคาดหวังนั้นเกินขอบเขตความเป็นจริง ก็จะกลายเป็นแรงกดดันที่ทำลายขวัญกำลังใจ และสร้างความเครียดอย่างต่อเนื่อง

ทางแก้: ใช้หลักการตั้งเป้าแบบ SMART (ชัดเจน วัดผลได้ ทำได้จริง เกี่ยวข้อง และมีกรอบเวลา) และทบทวนภาระงานของแต่ละคนให้เหมาะสมเป็นระยะ

พนักงานที่ทุ่มเท แต่ไม่ได้รับคำชื่นชมหรือการยอมรับ จะรู้สึกว่าความพยายามของตนไม่มีค่า ซึ่งนำไปสู่ความรู้สึกด้อยค่าและหมดแรงจูงใจ

ทางแก้: สร้างวัฒนธรรมการขอบคุณและให้กำลังใจ เช่น การกล่าวชมในที่ประชุม หรือมอบรางวัลเล็กๆ อย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญต้อง “ชมให้ตรงจุดและจริงใจ”

หากพนักงานรู้สึกว่าผู้นำเลือกปฏิบัติ ลำเอียง หรือมีมาตรฐานไม่เท่ากัน จะเกิดความรู้สึกไม่พอใจและไม่ไว้ใจ ซึ่งทำให้บรรยากาศในทีมเป็นพิษ

ทางแก้: วางระบบการทำงานที่โปร่งใส มีเกณฑ์การประเมินที่ชัดเจน และจัดอบรมผู้นำเรื่อง ความเป็นธรรมและอคติที่อาจแฝงอยู่โดยไม่รู้ตัว

เมื่อพนักงานถูกคาดหวังให้ “ทำงานตลอดเวลา” หรือไม่มีพื้นที่สำหรับชีวิตส่วนตัว ย่อมนำไปสู่ความเหนื่อยล้าและหมดไฟในระยะยาว

ทางแก้: สนับสนุนการพักผ่อนอย่างแท้จริง หลีกเลี่ยงการติดต่อพนักงานนอกเวลางาน และส่งเสริมการทำงานแบบยืดหยุ่นตามความเหมาะสม

การไม่รับฟังเสียงจากทีม ส่งสัญญาณว่า “ความคิดเห็นของคุณไม่สำคัญ” ซึ่งทำให้พนักงานรู้สึกหมดคุณค่า และขาดแรงผลักดันในการพัฒนา

ทางแก้: เปิดพื้นที่ให้แสดงความคิดเห็น เช่น แบบสอบถาม หรือประชุมกลุ่มย่อย และที่สำคัญต้อง “ลงมือทำจริง” ตามข้อเสนอแนะที่ได้รับ

เมื่อทุกงานถูกเร่งให้ “ด่วนที่สุด” เสมอ จะทำให้พนักงานเครียด ทำงานผิดพลาด และรู้สึกว่างานไม่เคยเสร็จสิ้น

ทางแก้: จัดลำดับความสำคัญของงานให้ชัดเจน และใช้เครื่องมือบริหารจัดการเวลาเพื่อประเมินระยะเวลาอย่างแม่นยำ พร้อมเปิดโอกาสให้ทีมแจ้งหากมีงานล้นมือ

การควบคุมทุกขั้นตอนในการทำงาน ทำให้พนักงานขาดอิสระ รู้สึกไม่ไว้วางใจ และหมดความคิดสร้างสรรค์

ทางแก้: เปลี่ยนบทบาทจาก “ผู้ควบคุม” เป็น “โค้ช” โดยให้อำนาจทีมตัดสินใจในขอบเขตที่เหมาะสม และเน้นผลลัพธ์มากกว่ารายละเอียดเล็กน้อย



การป้องกัน Burnout ไม่ได้หมายถึงแค่ลดความเครียด แต่คือการสร้าง วัฒนธรรมองค์กรที่เคารพชีวิตคนทำงาน ให้ความสำคัญกับความสมดุล ความปลอดภัยทางใจ และความไว้วางใจ เมื่อผู้นำลงมืออย่างจริงจัง องค์กรก็จะได้ทีมที่แข็งแรง มีแรงบันดาลใจ และพร้อมเติบโตไปด้วยกัน


สรุปส่งท้าย —Burnout ไม่ใช่ความผิดของพนักงานเสมอไป แต่มักเกิดจากโครงสร้างและพฤติกรรมของผู้นำที่ยังไม่ได้ปรับเปลี่ยน หากองค์กรต้องการสร้างทีมที่ยั่งยืน ต้องเริ่มจากการให้ความสำคัญกับ วัฒนธรรมองค์กร มากกว่าตัวเลขผลงาน และใส่ใจ “คน” มากกว่ากระบวนการ


A Cup of Culture
────
วัฒนธรรมองค์กร
corporateculture
organizationalculture
.
.

พฤติกรรมของผู้นำ
Sources:
Why unrealistic expectations at work backfire and how to set smarter goals. Retrieved from: https://www.culturemonkey.io/employee-engagement/unrealistic-expectations-at-work/
A Piece of The Burnout Puzzle: The Role of Expectations, Boundaries, and Ego. Retrieved from: https://carinisabelknoop.medium.com/the-burnout-puzzle-the-role-of-expectations-boundaries-and-ego-c5f99d71e01d
Recognizing ‘smoke signals’ is critical in preventing employee burnout. Retrieved from: https://www.fitonhealth.com/blog/recognizing-smoke-signals-is-critical-in-preventing-employee-burnout

Share to
Related Posts:
Search

ดาวน์โหลดตัวอย่างเครื่องมือบางส่วนจาก Values Uncovered ขอบคุณที่ให้ความสนใจในเครื่องมือของเรา

ORG Culture Canvas full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

Search