5 กลยุทธ์จัดการความขัดแย้ง : Thomas-Kilmann Model

กลยุทธ์จัดการความขัดแย้ง


เมื่อไลฟ์สไตล์ เป้าหมายชีวิต และวิถีการทำงานของแต่ละบุคคลแตกต่างกัน ย่อมเป็นธรรมดาที่จะก่อให้เกิดความเห็นต่างซึ่งอาจลุกลามไปสู่ “ความขัดแย้ง” ได้ แต่ทว่า #ความขัดแย้งไม่ใช่ศัตรูที่ต้องหวาดกลัวเสมอไป หากเราเข้าใจและจัดการมันอย่างชาญฉลาด ความขัดแย้งอาจกลับกลายเป็นบ่อเกิดแห่งนวัตกรรม เป็นสะพานเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างผู้คน และเป็นเบ้าหลอมวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น


ในบรรดา “กลยุทธ์จัดการความขัดแย้ง” ที่มีอยู่ โมเดล Thomas-Kilmann ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในการทำความเข้าใจและบริหารจัดการความขัดแย้งในองค์กร วันนี้เพจ A Cup of Culture จะพาทุกคนไปสำรวจเครื่องมือตัวนี้กันครับ ว่ามันคืออะไร และจะนำไปปรับใช้อย่างไร?



โมเดล Thomas-Kilmann ซึ่งพัฒนาโดย Kenneth Thomas และ Ralph Kilmann ในปี 1974 ได้ระบุสไตล์การจัดการความขัดแย้ง 5 รูปแบบ โดยจะเริ่มต้นจากการเข้าใจแกนทั้ง 2 มุมนั่นคือ แกนแนวตั้ง และแกนแนวนอน
– แกนแนวตั้ง เรียกว่า Assertiveness (การยืนหยัด) คือ ระดับของความกล้าที่จะยืดหยัดในความคิด/ความต้องการของตน
– แกนแนวนอน เรียกว่า Cooperativeness (ความร่วมมือ) คือ ระดับที่บุคคลพยายามตอบสนองความต้องการของผู้อื่น


การเข้าใจสไตล์เหล่านี้สามารถช่วยให้องค์กรรับมือกับความขัดแย้งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น


สไตล์การแข่งขัน มุ่งเน้นการบรรลุเป้าหมายของตนเองเป็นสำคัญ ด้วยท่าทีที่เด็ดเดี่ยวและมุ่งมั่น เหมาะกับสถานการณ์ที่ต้องการการตัดสินใจฉับไว เช่น ภาวะวิกฤต หรือการบังคับใช้กฎระเบียบที่สำคัญยิ่ง


การนำไปใช้ในวัฒนธรรมองค์กร: แม้การแข่งขันจะช่วยผลักดันงานให้สำเร็จ แต่หากใช้มากเกินพอดีอาจบั่นทอนบรรยากาศการทำงาน ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ ผู้นำองค์กรควรสร้างสมดุลระหว่างการแข่งขันและความร่วมมือ เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้อต่อการเติบโตร่วมกัน


สไตล์การร่วมมือ เป็นการให้ความสำคัญกับเป้าหมายของตนเองและผู้อื่นเท่า ๆ กัน มุ่งเน้นการทำงานร่วมกันเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด เหมาะกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนและต้องการมุมมองที่หลากหลาย


การนำไปใช้ในวัฒนธรรมองค์กร: การส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความร่วมมือจะหล่อหลอมความไว้วางใจ กระตุ้นนวัตกรรม และเสริมสร้างพลังทีม องค์กรที่ยึดมั่นในแนวทางนี้มักจะมีพนักงานที่มีความสุขและมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนองค์กรอย่างแข็งขัน


สไตล์การประนีประนอม เป็นการหาจุดกึ่งกลางที่แต่ละฝ่าย win-win ซึ่งได้รับและพึงพอใจในสิ่งที่ต้องการ เหมาะสำหรับการคลี่คลายข้อขัดแย้งเฉพาะหน้า หรือในสถานการณ์ที่ทุกฝ่ายมีอำนาจต่อรองใกล้เคียงกัน


การนำไปใช้ในวัฒนธรรมองค์กร: แม้การประนีประนอมจะช่วยบรรเทาปัญหาได้รวดเร็ว แต่การใช้วิธีนี้บ่อยครั้งอาจสร้างความรู้สึกว่าต้องเสียสละมากเกินไป องค์กรควรพิจารณาทางเลือกอื่นที่อาจให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า เช่น การร่วมมือหรือไม่?


สไตล์การหลีกเลี่ยง เป็นการไม่เผชิญหน้ากับความขัดแย้ง ไม่กล้าแสดงออก ไม่แสดงจุดยืน และไม่เข้าไปมีส่วนร่วม เหมาะกับสถานการณ์ที่ประเด็นนั้นเมื่อการเผชิญหน้าอาจทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย หรือหากเผชิญหน้าแล้วจะทำให้สถานการณ์แย่ลง


การนำไปใช้ในวัฒนธรรมองค์กร: การหลีกเลี่ยงความขัดแย้งอาจเป็นประโยชน์ในบางกรณี แต่หากใช้บ่อยเกินไป อาจทำให้ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข องค์กรควรสร้างวัฒนธรรมแห่งการสื่อสารที่เปิดกว้างเพื่อป้องกันไม่ให้การหลีกเลี่ยงกลายเป็นวิถีปฏิบัติ


สไตล์การยอมตาม เป็นการให้น้ำหนักกับเป้าหมายของผู้อื่นมากกว่าของตน เหมาะกับสถานการณ์ที่ต้องถนอมรักษาสัมพันธภาพ หรือเมื่อประเด็นของอีกฝ่ายมีความสำคัญมากกว่าอย่างชัดเจน


การนำไปใช้ในวัฒนธรรมองค์กร: แม้การยอมตามจะช่วยเสริมสร้างสัมพันธภาพและผ่อนคลายความตึงเครียด แต่หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องยอมอยู่เสมอ อาจนำไปสู่ความไม่สมดุลในองค์กร ผู้นำควรส่งเสริมให้พนักงานกล้าแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์และเหมาะสม



องค์กรที่มีวัฒนธรรมแข็งแกร่งจะมองว่าความขัดแย้งเป็นเรื่องปกติและมีแนวทางในการจัดการปัญหาอย่างเป็นระบบ วิธีที่องค์กรสามารถใช้โมเดล Thomas-Kilmann ให้เกิดประโยชน์ ได้แก่:

  1. ให้ความรู้เกี่ยวกับสไตล์การจัดการความขัดแย้ง – การฝึกอบรมจะช่วยให้พนักงานเข้าใจและเลือกใช้วิธีที่เหมาะสม
  2. ส่งเสริมการสื่อสารที่เปิดเผย – วัฒนธรรมที่โปร่งใสช่วยลดความขัดแย้งที่ไม่จำเป็น
  3. กำหนดนโยบายการจัดการความขัดแย้ง – มีกระบวนการที่ชัดเจนเพื่อให้มั่นใจว่าความขัดแย้งได้รับการแก้ไขอย่างเป็นธรรม
  4. พัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ – การมีความเข้าใจตนเองและผู้อื่นช่วยให้รับมือกับความขัดแย้งได้ดีขึ้น
  5. สร้างสมดุลระหว่างแนวทางต่าง ๆ – ไม่มีสไตล์ใดที่ดีที่สุด องค์กรควรสนับสนุนให้พนักงานสามารถปรับตัวตามสถานการณ์


บทสรุป

โมเดล Thomas-Kilmann เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง การเข้าใจและนำแนวทางทั้ง 5 ไปปรับใช้จะช่วยให้องค์กรสามารถจัดการกับความขัดแย้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความขัดแย้งที่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมสามารถเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเติบโตและนวัตกรรม ทำให้วัฒนธรรมองค์กรมีความแข็งแกร่งและเอื้อต่อความสำเร็จในระยะยาว


A Cup of Culture
────
วัฒนธรรมองค์กร
corporateculture
organizationalculture
.
.

กลยุทธ์จัดการความขัดแย้ง
Sources:
Kilmann Diagnostics. Retrieved from:  https://kilmanndiagnostics.com/overview-thomas-kilmann-conflict-mode-instrument-tki
Kilmann Diagnostics – Cultural Norms and Conflict Modes. Retrieved from: https://kilmanndiagnostics.com/cultural-norms-and-conflict-modes

Share to
Related Posts:
Search

ดาวน์โหลดตัวอย่างเครื่องมือบางส่วนจาก Values Uncovered ขอบคุณที่ให้ความสนใจในเครื่องมือของเรา

ORG Culture Canvas full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

Search