ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจสมัยใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ภาวะผู้นําที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสําคัญต่อความสําเร็จขององค์กร แต่ปัญหาที่พบบ่อยซึ่งทําลายความสําเร็จนี้คือการจัดการแบบ Micromanagement คือ การบริหารงานซึ่งมีลักษณะควบคุมและลงรายละเอียดยิบย่อย (มากเกินความจำเป็น) โดยผู้บริหารหรือผู้นำองค์กร บทความนี้จะสํารวจ 5 ผลลัพธ์ทางลบซึ่งส่งผลเสียหายอย่างมีนัยสําคัญต่อองค์กร จากผลการศึกษางานวิจัยทางวิชาการและมุมมองจากอุตสาหกรรม
🔴 1. กัดกร่อนขวัญกําลังใจของพนักงาน
ผลกระทบที่สําคัญอย่างยิ่งประการหนึ่งของ micromanagement คือการกัดกร่อนความเป็นอิสระและขวัญกําลังใจของพนักงาน เมื่อผู้บริหารติดตามและควบคุมทุกแง่มุมของงานอย่างใกล้ชิด พนักงานรู้สึกว่าตนเองถูกดูถูกและไม่ได้รับความไว้วางใจ ส่งผลให้เกิดความพึงพอใจและการมีส่วนร่วมในงานลดลง งานวิจัยคลาสสิกโดย Deci, Koestner และ Ryan (1999) ใน Journal of Organizational Behavior เปิดเผยว่าการจัดการที่ควบคุมสามารถลดแรงจูงใจภายในของพนักงานได้อย่างมีนัยสําคัญ
🔴 2. ทําลายความคิดสร้างสรรค์และการพัฒนา
ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมมีความสําคัญต่อสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน micromanagementโดยธรรมชาติจะทําลายองค์ประกอบเหล่านี้ เนื่องจากจํากัดความสามารถของพนักงานในการทดลองและแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ Amabile (1998) ในผลงานสําหรับ Harvard Business Review ได้เน้นย้ําผลกระทบในทางลบของการลดความเป็นอิสระที่มีต่อความคิดสร้างสรรค์ในที่ทํางาน พนักงานภายใต้micromanagementมีแนวโน้มที่จะเสี่ยงหรือหาทางออกที่สร้างสรรค์น้อยลง ส่งผลเสียต่อการเติบโตส่วนบุคคลและความก้าวหน้าขององค์กร
🔴 3. สร้างคอขวดในการตัดสินใจ
ผู้จัดการแบบไมโครมักรวมอํานาจในการตัดสินใจโดยไม่ได้ตั้งใจ ทําให้ตนเองกลายเป็นคอขวดในกระบวนการ ส่งผลให้กระบวนการและประสิทธิภาพขององค์กรช้าลง Mankins และ Garton ในหนังสือ “Time, Talent, Energy” ปี 2017 ได้อภิปรายว่าการอนุมัติที่มีขั้นตอนมากเกินไป สามารถทําให้ความคล่องตัวและการตอบสนองขององค์กรลดลงอย่างมีนัยสําคัญ นําไปสู่การพลาดโอกาสและการตอบสนองตลาดที่ช้าลง
🔴 4. เพิ่มอัตราการลาออก
การลาออกของพนักงานที่สูงเป็นปัญหาที่สร้างค่าใช้จ่ายและก่อความยุ่งยากให้องค์กร และmicromanagementเป็นสาเหตุหลักประการหนึ่ง รายงาน “State of the American Manager” โดย Gallup เปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจว่า พนักงาน 1 ใน 2 คนลาออกจากงานเพื่อหลีกเลี่ยงผู้จัดการและปรับปรุงชีวิตโดยรวม การลาออกนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อขีดความสามารถในการดําเนินงานขององค์กร แต่ยังก่อให้เกิดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาและฝึกอบรมพนักงานใหม่อีกด้วย
🔴 5. ทําลายวัฒนธรรมองค์กร
การจัดการแบบลงรายละเอียดทุกเม็ดสร้างวัฒนธรรมแห่งการไม่ไว้วางใจและทำให้เสพติดการพึ่งพา เมื่อพนักงานไม่ได้รับความไว้วางใจให้ตัดสินใจหรือทํางานได้อย่างอิสระ วัฒนธรรมการพึ่งพาก็จะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพระยะยาวขององค์กร Edgar Schein ในหนังสือ “Organizational Culture and Leadership” ปี 2010 ได้เน้นย้ําถึงอิทธิพลอย่างมากของรูปแบบผู้นํา รวมถึงการจัดการแบบลงรายละเอียดทุกเม็ดที่มีต่อการกําหนดวัฒนธรรมองค์กร
สรุป —การจัดการแบบไล่จี้รายละเอียดเป็นปัญหาที่แพร่หลายและส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อสุขภาพและประสิทธิภาพการทํางานขององค์กร ตั้งแต่การลดทอนอิสระในการทํางานและปราบปรามความคิดสร้างสรรค์ ไปจนถึงการสร้างคอขวดและวัฒนธรรมเชิงลบ ผลกระทบมีหลากหลายด้านและรุนแรง ผู้นําจําเป็นต้องสร้างวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจ มอบอํานาจให้พนักงาน และส่งเสริมนวัตกรรมและอิสระในการทํางาน เพื่อให้องค์กรสามารถเพิ่มความพึงพอใจและผลิตภาพของพนักงาน ตลอดจนวางตําแหน่งตัวเองให้ประสบความสําเร็จในระยะยาวภายใต้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
A Cup of Culture
———–
วัฒนธรรมองค์กร
corporateculture
organizationalculture
.
.

Deci, Koestner, and Ryan (1999)
Amabile (1998), Harvard Business Review
Mankins and Garton (2017), Time, Talent, Energy
State of the American Manager report by Gallup
Schein (2010), Organizational Culture and Leadership
