4 แนวทางบริหารจัดการเวลาให้ดียิ่งขึ้น

ในงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่เข้าไปสำรวจกลุ่มคนทำงานกว่า 700 คน ที่ถูกขนานนามว่าเป็นกลุ่มที่ยุ่งเป็นพิเศษ (busy professionals) ในหลากหลายตำแหน่งหน้าที่และระดับด้วยคำถามว่าอะไรคือปัจจัยที่นำไปสู่อาการหมดไฟ ผลสำรวจพบว่าการไม่มีเวลาโฟกัสกับงานของตัวเอง (lack of time for focused work) คือ ปัจจัยที่นำมาเป็นอันดับหนึ่งที่ 63% ในขณะที่มีเพียง23.2% กล่าวว่าเป็นเรื่องของวัฒนธรรมองค์กร และ 22.1% กล่าวว่าเป็นเรื่องของรายได้ที่ไม่สมน้ำสมเนื้อ


เมื่อถามต่อว่าแล้วปัจจัยอะไรที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการ burnout ผลสำรวจก็ยังคงสอดคล้องไปกับตัวเลขข้างต้น ว่า 69.1% ขอให้ตนเองได้มีเวลาโฟกัสกับงานส่วนตัวมากขึ้น ในขณะที่ผู้ที่ตอบว่าการขึ้นอัตราค่าตอบแทนจะช่วยให้อาการหมดไฟหายไปมีอยู่ที่ 30.5% ตามมาด้วยวัฒนธรรมองค์กรดี ๆ ที่ 24.5%


ข้อสรุปเบื้องต้นของงานวิจัยนี้ทำให้เราพอจะเห็นข้อเท็จจริงที่ทั้งเห็นด้วยและขัดกับสิ่งที่เราเชื่อมาตลอดอยู่บ้าง คือ เห็นด้วยว่า การบริหารจัดการเวลาของตัวเองไม่ได้อันนำไปสู่การทำงานหามรุ่งหามค่ำจนกลืนกินส่วนอื่น ๆ ของชีวิตจะนำไปสู่อาการหมดไฟในที่สุด และขัดกับความคิดเดิม ๆ อยู่บ้างตรงที่หลายองค์กรเชื่อว่าการทุ่มเงินจ่ายค่าจ้างแพง ๆ จะทำให้พนักงานใจชื้นและหมดอาการ burnout ไปเอง หรือเช่นว่าการมีวัฒนธรรมองค์กรดี ๆ ในภาพรวมจะช่วยเยียวยาอาการหมดไฟได้


วันนี้เราจะมาพูดกันถึงวิธีแก้ปัญหาอาการหมดไฟตามอันดับของผลสำรวจที่พนักงานกว่า 69.1% ในงานวิจัยนี้กล่าวว่าถ้าสามารถจัดการบริหารเวลา (time management) ได้ ปัญหาก็อาจได้รับการแก้ไข แล้วเราจะเพิ่มเวลาให้กับการทำงานของตัวเองตลอดจนป้องกันอาการ burnout ได้อย่างไร เราลองมาดูคำแนะนำดังต่อไปนี้กันครับ


1. กำหนดกรอบเวลาอย่างชัดเจนสำหรับการติดต่อประสานงาน (Adopt core collaboration hours for meetings)


ตัวการอันดับหนึ่งที่เข้ามาติดพันทำให้เราไม่มีเวลาทำงานของตัวเองก็คือประชุมที่เยอะเกินไป ทั้งประชุมทีม ประชุมระหว่างแผนก ตลอดจนมื่อใครก็ตามโทรมาขอให้เราทำงานแทรก งานเร่ง งานด่วนต่าง ๆ ดังนั้นสิ่งที่บริษัทสามารถเป็นตัวตั้งตัวตีช่วยคลายปมนี้ได้คือการออกระเบียบจำกัดเวลาแห่งการประสานงานใด ๆ เช่น เฉพาะระหว่างเวลา 10.00 – 14.00 น. หรือแบ่งครึ่งเช้าครึ่งบ่ายไปเลย เป็นต้น


2. กำหนดกรอบเวลาสำหรับงานส่วนตัว (Encourage dedicated time for routines and tasks)


เพื่อให้สอดคล้องไปกับ core collaboration hours ข้างต้น เราเองก็ต้องกำหนด routine ของตัวเองขึ้นมาให้ล้อไปด้วยกัน เช่น เมื่อเราทราบแล้วว่าระหว่างสิบโมงถึงบ่ายสองจะมีประชุมหรืออาจถูกรบกวนให้ช่วยเหลืออะไรบางอย่างได้อยู่ตลอดเวลา เราก็จัดลำดับงานสำคัญ ๆ มาสปริ้นท์ในช่วงเช้า เป็นต้น


3. ทำให้คนอื่นรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ตัวเองไม่ว่าง (Align digital presence to the calendar)


โปรแกรมคุยงานยอดฮิตอย่าง Slack ไม่ได้มีไว้เพียงเพื่อให้เราแยกเรื่องงานออกมาจากไลน์ แต่ยังช่วยสื่อสารให้คนอื่นทราบด้วยว่าเมื่อไหร่ที่เราว่างหรือไม่ว่าง ซึ่งก็อาจต้องอาศัยความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่นอยู่พอสมควร เพราะไม่ใช่ว่าเราจะตั้งสถานะ do not disturb ในเวลางานเพียงเพราะไม่อยากให้คนอื่นรบกวนได้ และในทางกลับกันเมื่อเลิกงานสถานะ do not disturb ก็ควรจะศักสิทธิ์ คือ หากไม่มีเรื่องคอขาดบาดตายจริง ๆ ทั้งเราและเพื่อนร่วมงานก็ไม่ควรจะรบกวนกันและกัน


4. ลงตารางชีวิตส่วนตัวในปฏิทินงาน (Ensure that personal time is reflected on work schedules)


คล้ายกันกับข้อข้างต้น คือเราต้องการให้ผู้อื่นทราบว่าช่วงเวลานี้เราว่างหรือไม่ว่าง เพียงแต่มีส่วนเสริมพ่วงท้ายต่ออีกหน่อยว่าเพราะอะไร บางทีเราอาจจะมีนัดทำฟัน ทานข้าวเย็นกับครอบครัว พาลูกไปโรงเรียน ใช้เวลาวันหยุดกับที่บ้าน อาจฟังดูแหวกแนวไปสักนิดแต่ให้เราลองใส่กิจกรรมเหล่านี้ลงไปในตารางงานของเราไม่ว่าจะเป็น Google Calendar หรือ Outlook ดูได้เลย พร้อมส่งเสริมให้ทุกคนในองค์กรเช็คตารางงานของกันและกันก่อนจะติดต่อประสานงานใด ๆ โดยเฉพาะในวันหยุด


และทั้งหมดนี้ก็คือสี่แนวทางที่จะช่วยให้เรามีเวลาโฟกัสกับงานตรงหน้าของตัวเองจริง ๆ มากขึ้น ทั้งยังช่วยให้เราได้มีเวลาของตัวเองอย่างแท้จริงนอกเวลางาน การมีวัฒนธรรมองค์กรที่ดีเป็นทุนเดิมเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว รายได้ที่สมน้ำสมเนื้อกับเนื้องานภาระหน้าที่ก็เช่นกัน แต่เรามาช่วยกันส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการเช็คและเคารพปฏิทินชีวิตของกันและกันด้วยอีกสักอย่างก็จะดีไม่น้อย


A Cup of Culture
———–
วัฒนธรรมองค์กร
Corporate culture
Organizational culture
.
.

Reference:
https://www.fastcompany.com/90801721/this-one-overlooked-factor-is-contributing-more-to-burnout-than-any-other

Share to
Related Posts:
Search

ORG Culture Canvas full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

The Value Compass full report is ready for download. Thank for interesting in our free tools.

Search