ทุกวัน…เรากำลังเลือกยืนอยู่ในแถวไหน? กิจวัตรในที่ทำงานที่เราทำกันเป็นประจำ เริ่มตั้งแต่เวลาเข้างาน พูดคุยกับเพื่อน (+เม้าท์มอย) เปิดคอมเช็คโซเชียล เคลียร์งานด่วนงานเร่งที่เข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว หรือการวิ่งวุ่นอยู่กับการเข้ามีตติ้งตลอดทั้งวัน… อาจดูเป็นเรื่องปกติ แต่พฤติกรรมเล็กๆ เหล่านี้กำลังก่อร่างสร้าง “วัฒนธรรมองค์กร” โดยที่หลายคนอาจไม่ทันรู้ตัว
วันนี้เพจ A Cup of Culture อยากชวนคุณสะท้อนความจริงข้อหนึ่งที่เราต้องกล้ายอมรับ นั่นคือ → คนส่วนใหญ่มักยืนอยู่ในแถวที่ง่ายกว่า → ในขณะที่น้อยคนนัก…ที่จะเลือกยืนในแถวที่ต้องใช้หัวใจ ใช้แรง ใช้ความกล้า / คำถาม จึงไม่ใช่แค่ว่า “องค์กรของคุณมีวัฒนธรรมแบบไหน?” แต่คือ…องค์กรของคุณกำลังพาคนไปเข้าแถวไหนกันแน่?
วัฒนธรรมองค์กร คือ พฤติกรรม ความเชื่อ และทัศนคติที่คนในองค์กรแสดงออกในทุกวัน (โดยเฉพาะยิ่งเห็นชัดเวลาเจ้านาย/หรือหัวหน้าไม่อยู่) ภาพนี้จึงกำลังสะท้อนว่า “ผู้คนมักเลือกที่จะวิจารณ์ หรือนินทา มากกว่าจะร่วมสร้างสรรค์เชิงบวก” ดังนั้น เมื่อพฤติกรรมเหล่านี้แพร่กระจาย:
- การซุบซิบนินทา
- การสื่อสารเป็นพิษ
- ความไว้ใจลดลง
- การมีส่วนร่วมต่ำ
…สิ่งเหล่านี้จะค่อยๆ กลายเป็น “นิสัยหมู่” และตกผลึกเป็นวัฒนธรรมองค์กรในที่สุด
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าองค์กรของเรายืนอยู่ในแถวไหน?
ลองถามตัวเองด้วยคำถามง่ายๆ ดูว่า:
- ทีมงานของเราทำงานเชิงรุก หรือรอให้มีปัญหาเกิดขึ้นก่อนถึงค่อยแอคชั่น?
- เวลาคุยกันเรามีแต่พูดถึงปัญหา หรือมักคุยกันด้วยแนวทางแก้ไข?
- คนกล้าเสนอไอเดียดดยไม่รู้สึกกลัวความผิดไหม?
- ใครคือคนที่มักได้รับการยอมรับ: คนที่คอยซัพพอร์ตทีม หรือคนที่เสียงดังกว่าใคร?
ทำไมถึงเกิดพฤติกรรมแย่ๆ เหล่านี้ในองค์กร?
ปัจจัยหลักๆ ได้แก่:
- ผู้นำเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี – ถ้าผู้นำชอบวิจารณ์ คนในทีมก็จะทำตาม
- ขาดความไว้วางใจ – การนินทาเกิดขึ้นเมื่อคนไม่กล้าพูดตรงๆ
- ไม่มีแนวทางชัดเจน – ถ้าองค์กรไม่เน้นการมีส่วนร่วม คนก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร
- ทำตามความเคยชิน – วิจารณ์มันง่ายกว่าลงมือทำ
หากไม่แก้ไข พฤติกรรมเหล่านี้จะกลายเป็นบรรทัดฐาน และในท้ายที่สุดกลายเป็นตัวตนและวัฒนธรรมองค์กร (แบบที่เราไม่ได้ตั้งใจสร้างให้เกิดขึ้น)
จะทำอย่างไรให้พนักงานอยาก “มีส่วนร่วม” หรือ “To contribute” ?
คำว่า To contribute เน้นไปที่การลงแรง ลงความคิด หรือส่งมอบบางสิ่งที่มีคุณค่า (To add value) และเพื่อสร้างผลลัพธ์เชิงบวก (To make an impact) ตัวอย่างเช่น การเสนอไอเดีย, ช่วยแก้ปัญหา, ทำให้งานก้าวหน้า และลงมือทำบางสิ่งเพื่อสร้างผลลัพธ์เชิงบวก
ลองเริ่มจาก 4 วิธีนี้:
1. เริ่มจากผู้นำ
- แสดงตัวอย่างที่ดี
- เปิดโอกาสให้คนอื่นเสนอความเห็น
- ชื่นชมผลงานของทีมอย่างเปิดเผย
2. สร้างระบบที่สนับสนุน
- ตั้งทีมพัฒนานวัตกรรมข้ามฝ่าย
- เพิ่มหัวข้อ “การมีส่วนร่วม” ในการประเมินผล
- จัดกิจกรรมสะท้อนผลงานรายไตรมาส
3. ให้รางวัลอย่างเหมาะสม
- ให้เครดิตกับคนที่เสนอแนวทางใหม่ๆ
- เฉลิมฉลองความสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือ
- เปิดโอกาสให้ทีมเสนอชื่อคนที่มีส่วนร่วม
4. ลดวงจรวิจารณ์และนินทา
- เปิดพื้นที่ให้คนได้พูดตรงๆ
- ฝึกอบรมเรื่องการให้ฟีดแบ็คอย่างสร้างสรรค์
- ส่งเสริมบทสนทนาเชิงบวกในทีม
บทสรุปส่งท้าย: วัฒนธรรมองค์กรจะเลือกยืนอยู่แถวไหน?
วัฒนธรรมองค์กรไม่ได้เกิดจากสโลแกนบนผนัง – แต่มาจากการกระทำเล็กๆ ในทุกวัน
ทุกการเลือก ไม่ว่าจะวิพากษ์วิจารณ์หรือนำเสนอแนวทางแก้ไข — ไม่ว่าจะซุบซิบนินทาหรือให้ Feedback เชิงบวก — ล้วนเป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรทีละก้าว
ภาพนี้จึงเป็นมากกว่าภาพวาดธรรมดา เพราะมันสะท้อนให้เราเห็นว่า…
องค์กรของเรากำลังสร้างวัฒนธรรมจากพฤติกรรมแบบไหน — โดยที่เราอาจยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
A Cup of Culture
────
วัฒนธรรมองค์กร
corporateculture
organizationalculture
.
.

Pink, D. H. (2009). Drive: The surprising truth about what motivates us.
Duhigg, C. (2016). What Google Learned From Its Quest to Build the Perfect Team. The New York Times Magazine. https://www.nytimes.com/2016/02/28/magazine/what-google-learned-from-its-quest-to-build-the-perfect-team.html
