หลายครั้งที่องค์กรเพิ่งรู้ว่าพนักงานคนเก่ง (talent employee) รู้สึกไม่โอเค ก็ตอนที่เขายื่นจดหมายลาออก และเมื่อถึงจุดนั้นก็สายเกินไปแล้ว ความเสียหายเกิดขึ้น และการสัมภาษณ์ในวันลาออกก็กลายเป็นเพียงการวิเคราะห์สิ่งที่ “น่าจะ” รักษาไว้ได้
ในยุคที่มีทั้งการลาออกเงียบ (quiet quitting), ภาวะหมดไฟในการทำงาน (burnout) และการแข่งขันดึงตัวโดยองค์กรอื่นที่พร้อมจ่ายมากกว่า การรอฟังเสียงพนักงานตอนลาออกอาจไม่เพียงพอ.. นี่แหละคือเหตุผลที่ “การสัมภาษณ์เพื่อให้อยู่ต่อ” หรือ Stay Interview กลายเป็นเครื่องมือที่ควรนำมาใช้มากขึ้น แม้จะดูเรียบง่าย แต่กลับมีพลัง และน่าเสียดายที่หลายองค์กรยังมองข้าม
เรามาทำความเข้าใจไปพร้อมกันว่า Stay Interview คืออะไร มีความสำคัญแค่ไหน และควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้ผลจริง
1. Stay Interview คืออะไร?
Stay Interview คือ การสนทนาแบบหนึ่งต่อหนึ่ง (1-on-1) ที่มีโครงสร้างการพูดคุยอย่างชัดเจน ระหว่างผู้จัดการกับพนักงาน โดยมีเป้าหมายเพื่อค้นหาว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้พนักงานยังอยู่กับองค์กร และอะไรคือปัจจัยที่อาจทำให้เขาตัดสินใจลาออก
ซึ่งต่างจากการประเมินผลงานทั่วไป การสัมภาษณ์แบบนี้เน้นไปที่แรงจูงใจ ความต้องการ และประสบการณ์ของพนักงาน ไม่ใช่การประเมินผล แต่คือการฟัง เรียนรู้ และแสดงให้เห็นว่า “คุณใส่ใจ”
2. ทำไม Stay Interview จึงสำคัญ?
1. รักษาคนไว้ มากกว่ารอให้เขาลาออก
• Stay Interview ช่วยเปิดเผยปัญหาก่อนที่มันจะกลายเป็นเหตุผลให้ออก
• เมื่อผู้นำเข้าใจสิ่งที่พนักงานให้คุณค่า ก็สามารถลงมือทำเพื่อรักษาคนเก่งไว้ได้
2. สร้างความเชื่อใจและความผูกพัน
• หากทำอย่างถูกวิธี มันคือสัญญาณที่สื่อว่า: “คุณสำคัญ ความคิดเห็นของคุณสำคัญ”
• ช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยทางใจ และทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างผู้จัดการกับทีมแน่นแฟ้นขึ้น
3. ให้ข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์
• ต่างจากแบบสอบถามความผูกพันที่เป็นภาพรวม Stay Interview ให้มุมมองเฉพาะบุคคลที่ลึกซึ้ง
• เปิดเผยทั้งสิ่งที่ทำได้ดี สิ่งที่ควรปรับปรุง และจุดที่ควรเร่งเปลี่ยนแปลง
4. สนับสนุนวัฒนธรรมที่เน้นการเติบโต
• พนักงานจะรู้สึกมีแรงจูงใจเมื่อเห็นเส้นทางเติบโตในองค์กร
• บทสนทนาเช่นนี้มักเปิดโอกาสให้รู้ถึงความฝันและเส้นทางพัฒนาในอนาคต
3. ทำ Stay Interview อย่างไรให้ได้ผล?
1. เลือกจังหวะให้เหมาะสม
• ควรจัดขึ้นปีละ 1–2 ครั้ง โดยไม่ตรงกับช่วงประเมินผลงาน
• เลือกสถานที่ที่เงียบสงบ เป็นส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นแบบพบหน้าหรือออนไลน์ เพื่อให้พนักงานรู้สึกปลอดภัยในการเปิดใจ
2. ถามคำถามให้ดี
ควรถามอย่างเปิดกว้าง ด้วยความอยากรู้และจริงใจ เช่น :
• อะไรคือสิ่งที่คุณตั้งตารอเมื่อมาทำงาน?
• คุณชอบ (และไม่ชอบ) อะไรในบทบาทของคุณ?
• ทักษะอะไรที่คุณมีแต่ยังไม่ได้ใช้ในงานปัจจุบัน?
• อะไรคือสิ่งที่อาจทำให้คุณตัดสินใจลาออก?
• ฉันจะสนับสนุนคุณได้ดีกว่านี้อย่างไร?
3. ฟังให้มากกว่าพูด
• นี่ไม่ใช่การขายไอเดีย แต่คือโอกาสในการ “ฟังและเข้าใจ”
• อย่าตั้งการ์ด อย่าเถียง จดบันทึก และทวนความเข้าใจเพื่อความชัดเจน
4. ลงมือทำหลังจากบทสนทนา
• การสัมภาษณ์จะไร้ค่า หากไม่มีการกระทำตามมารองรับ
• แม้แต่การปรับเปลี่ยนเล็กน้อย เช่น เปลี่ยนบทบาทบางอย่าง มอบงานที่ท้าทาย หรือชี้ทางอาชีพที่ชัดเจน ก็แสดงให้เห็นว่าคุณจริงใจ
บทสรุป – ในยุคที่การรักษาคนเก่งเป็นความท้าทายสำคัญขององค์กร การรอให้พนักงานลาออกก่อนค่อยสอบถามปัญหาย่อมสายเกินไป “Stay Interview” หรือ “การสัมภาษณ์เพื่อให้อยู่ต่อ” จึงเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพในการฟังเสียงพนักงานอย่างจริงใจ
บทสนทนาแบบตัวต่อตัวนี้ช่วยให้ผู้จัดการเข้าใจแรงจูงใจ ความคาดหวัง และปัญหาที่อาจซ่อนอยู่ ซึ่งหากแก้ไขได้ทันเวลาก็สามารถลดการลาออก เพิ่มความผูกพัน และส่งเสริมการเติบโตในองค์กรได้อย่างยั่งยืน
A Cup of Culture
────
วัฒนธรรมองค์กร
corporateculture
organizationalculture
.
.

Sources :
- How Managers Can Use Stay Interviews to Improve Retention. Retrieved from: https://www.shrm.org/topics-tools/news/hr-magazine/how-managers-can-use-stay-interviews-to-improve-retention
- How to Conduct Stay Interviews: Core Features and Advantages. Retrieved from: https://www.shrm.org/topics-tools/news/employee-relations/how-to-conduct-stay-interviews-core-features-advantages
- Employee Stay Interviews and How to Conduct Them. Retrieved from: https://www.jmco.com/articles/human-resources/employee-stay-interviews
- What Is a Stay Interview? 13 Questions to Ask. Retrieved from: https://builtin.com/recruiting/stay-interview
- STAY INTERVIEWS: A Proactive Approach to Employee Retention. Retrieved from: https://www.linkedin.com/pulse/stay-interviews-proactive-approach-employee-retention-engagement-p7v0e
