รัฐบาล บริษัท มูลนิธิ สื่อมวลชล เราไว้ใจองค์กรแบบไหนมากที่สุด ? อาจจะเป็นตัวเลือกที่ยากหน่อยสำหรับในบ้านเรา แต่สำหรับงานวิจัยจากฝั่งอเมริกาพบว่าพวกเขาไว้ใจองค์กรประเภทบริษัทมากที่สุดเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน…
งานวิจัยจากทั้ง PwC และ Edelman’s Trust Barometer พบว่า 63% ของคนอเมริกันเลือกที่จะไว้ใจองค์กรในกลุ่มบริษัท และนอกจากนั้นผลสำรวจยังระบุได้ว่าสาเหตุหนึ่งของความไว้วางใจนี้มาจากความพยายามของเหล่าธุรกิจต่าง ๆ ในการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 เช่น การรักษาความปลอดภัยด้านสุขภาพของทั้งพนักงาน และชุมชน การดูแลพนักงานด้านเสบียงข้าวของ-เครื่องใช้ การสนับสนุนด้านวัคซีน รวมถึงการให้การกู้ยืมเงินกับพนักงาน หรือพูดง่าย ๆ ว่าในช่วงที่ผ่านมาเหล่าองค์กรธุรกิจเป็น MVP ในการฝ่าวิกฤติโควิด-19
แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าทุก ๆ องค์กรจะเหมือนกัน เมื่อเร็ว ๆ นี้หลายท่านอาจจะทราบข่าวของการที่มูลค่าหุ้นของ Meta (ชื่อเดิม Facebook) หายไป 1 ใน 4 ในเวลาชั่วข้ามคืน โดยหนึ่งในสาเหตุสำคัญคือการที่ Facebook ไม่สามารถดึงดูด และรักษาผู้ใช้ได้เหมือนเดิมแล้ว จากการที่ผู้ใช้งานหลายคนมีความไม่สบายใจต่อนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Facebook
ทั้งสองเหตุการณ์นี้นอกเหนือจากการที่จะเป็นการบอกถึงความสำคัญของความไว้วางใจ และผลกระทบที่มันมีต่อธุรกิจแล้ว ยังช่วยให้เราสามารถถอดบทเรียนเกี่ยวกับการสร้างความไว้วางใจได้อีกด้วย โดยที่งานวิจัยของทาง PwC พบว่าผู้บริโภคนั้นเหล่าความสำคัญกับ 4 ปัจจัยต่อไปนี้เป็นหลัก:
- Data protection and cybersecurity
- Treating employees well
- Ethical business practices
- Admitting mistakes quickly and honestly
ที่ผ่านมาเราเห็นพัฒนาการในทั้ง 4 ด้านมาจากหลาย ๆ องค์กร โดยเฉพาะข้อแรกที่เห็นได้ชัดในบ้านเราก็เริ่มให้ความสำคัญกับประเด็นของเรื่อง PDPA และก็เป็นจุดอ่อนของ Meta ณ ขณะนี้
:::::::::::::::::::::
นอกเหนือจากประเด็น 4 ด้านที่คนทั่วไปให้ความสำคัญ ข้อมูลอีกส่วนที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลยคือประเด็นที่บริษัทมักจะให้ความสำคัญ แต่คนทั่วไปไม่ค่อยสนใจ ซึ่งประเด็นเหล่านั้นคือด้านนโยบาย ESG ประเด็นนี้น่าสนใจเพราะรายวิจัยพบว่าไม่ใช่ว่าผู้บริโภคไม่สนใจในด้านของสภาพแวดล้อม แต่เป็นการที่ธุรกิจส่วนใหญ่ยังไม่สามารถที่จะเชื่อมโยงโครงการด้าน ESG ของตัวเองได้ว่ามันส่งผลกระทบที่มีต่อตัวผู้บริโภคอย่างไร
ประเด็นนี้สิ่งที่สำคัญกับการสร้างความไว้วางใจกับผู้บริโภคมาก คือการที่ผู้บริโภคต้องการเห็นผลกระทบ และการแสดงความรับผิดชอบขององค์กรเมื่อมีความผิดพลาดใด ๆ เกิดขึ้นทั้งในด้านของสภาพแวดล้อม และตัวผู้บริโภคเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่หลาย ๆ องค์กรธุรกิจทำได้ดีในปีที่ผ่าน ๆ มา และทำให้เกิดความไว้วางใจต่อผู้บริโภคมากกว่าองค์กรประเภทอื่น นอกเหนือจากนั้นยังมีประเด็นที่น่าสนใจที่เป็น Key Success Factors อื่น ๆ ดังนี้:
⚫ 1. เทรนด์ของ trust และ transparency กำลังมา
ปัจจุบันเป็นยุคที่ผู้นำบริษัทเริ่มมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรแห่งความไว้วางใจ และความโปร่งใส ตัวเองเช่นที่ PwC เองในปีที่ผ่านมาเป็นปีแรกที่ได้ตีพิมพ์สรุปยอด Demographic ของพนักงานทั้งหมดของพวกเขา เพื่อยืนยันถึงการให้ความสำคัญกับ Diversity and Inclusion และความโปร่งใสขององค์กร
🔴 2. การสื่อสาร Why นั้นสำคัญ
เมื่อมีการให้ความโปร่งใสแล้ว นั่นหมายความว่าทุก ๆ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรวมถึงผู้บริโภคจะเข้ามาช่วยมีบทบาทในการตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นกับองค์กร นั่นทำให้เมื่อบริษัทมีการตัดสินใจครั้งใหญ่ใด ๆ การสื่อสารสาเหตุ และที่มาที่ไปของการตัดสินใจจึงเป็นเรื่องสำคัญที่มาคู่กัน และต้องสื่อสารในรูปแบบที่เหมาะสมกับแต่ละ stakeholder แตกต่างกัน
🔵 3. ผู้นำต้องมีความชัดเจน ความกล้า และกล้ายอมรับความผิดพลาด
สุดท้ายแล้วไม่ว่าอย่างไรความผิดพลาดก็จะเกิดขึ้น ถึงเวลานั้นความไว้วางใจจะถูกทดสอบโดยความกล้ายอมรับของผู้นำองค์กร และความจริงใจต่อการแก้ปัญหา และป้องกันความผิดพลาดในอนาคต
::::::::::::::::::::
จากการศึกษานี้ทำให้เราเห็นถึงแนวโน้มที่ดีของทั้งโลกธุรกิจ และสังคม เพราะเมื่อหลาย ๆ ธุรกิจหันมาให้ความสำคัญกับความโปร่งใจ และความไว้วางใจ และที่ผ่านมาทำได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นกลุ่มที่น่าไว้วางใจที่สุด นั่นยิ่งทำให้วัฒนธรรมองค์กรที่เน้นความโปร่งใส และความไว้วางใจกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุก ๆ ธุรกิจขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นสัญญาณที่บอกว่าสังคมกำลังเดินไปในทิศทางที่ดีมากขึ้น
A Cup of Culture
———–
วัฒนธรรมองค์กร
Corporate culture
Organizational culture
.
.
>>>>
.
.
>>>